.

รัสเซียเสนอแผนสร้าง “อุโมงค์ปูติน–ทรัมป์” เชื่อมอะแลสกา'สหรัฐฯ- รัสเซีย 'สัญลักษณ์ความสามัคคี-โอกาสทางเศรษฐกิจ'
18-10-2025
"รัสเซียเปิดแผนสร้าง 'อุโมงค์ประวัติศาสตร์' เชื่อมสองทวีป คาดใช้เทคโนโลยี Boring Company ลดต้นทุนจาก 6.5 หมื่นล้าน เหลือ 8 พันล้านดอลลาร์"
คิริล ดมิตรีเยฟ (Kirill Dmitriev) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund: RDIF) เปิดเผยข้อเสนอแนวคิดการสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียกับรัฐอะแลสกา (Alaska) สหรัฐอเมริกา ผ่านช่องแคบแบริ่ง (Bering Strait) โดยอุโมงค์ดังกล่าวถูกขนานนามว่า “Putin-Trump Tunnel”
ดมิตรีเยฟกล่าวว่า โครงการนี้จะใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 8 ปี ด้วยงบประมาณต่ำเพียง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากอาศัยเทคโนโลยีของบริษัท The Boring Company ซึ่งดำเนินการโดยอีลอน มัสก์ (Elon Musk) แทนการใช้วิธีดั้งเดิมซึ่งมีต้นทุนราว 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ลองจินตนาการถึงการเชื่อมต่อสหรัฐฯ กับรัสเซีย เชื่อมโยงอเมริกากับเอเชีย–แอฟริกา ผ่านอุโมงค์ปูติน–ทรัมป์ซึ่งยาว 70 ไมล์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราสามารถสร้างอนาคตร่วมกัน!” ดมิตรีเยฟกล่าว
RDIF ระบุว่าได้ลงทุนและสร้างสะพานรถไฟรัสเซีย–จีนแห่งแรกของโลกเรียบร้อยแล้ว พร้อมผลักดันให้โครงการเชื่อมข้ามทวีปผ่านอุโมงค์โดยตรงนี้เป็นจริง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือรัสเซีย–สหรัฐฯ และสร้างประวัติศาสตร์การเชื่อมทวีปทั้งสองเป็นครั้งแรก
### รายละเอียดและเส้นทางโครงการ
อุโมงค์ข้ามช่องแคบแบริ่งจะมีความยาวประมาณ 64 ไมล์ (103 กิโลเมตร) โดยใช้รูปแบบอุโมงค์รถไฟคู่แบบไป–กลับ หรืออาจสร้างแบบอุโมงค์คู่ชั้นเดียว ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานรถไฟเพิ่มเติมอีกประมาณ 8 กิโลเมตรในแต่ละฝั่งชายฝั่ง
ระบบรถไฟในอเมริกาเหนือประกอบไปด้วยทางรถไฟระยะทาง 2,844 กิโลเมตร จากจุด Cape Prince of Wales ในอะแลสกา ผ่าน Whitehorse ประเทศแคนาดา และเชื่อมกับซีแอตเทิล ขณะที่ทางรถไฟฝั่งตะวันออกไกลรัสเซียมีระยะทางกว่า 3,850 กิโลเมตร จากเมืองอูเอเลน (Uelen) ผ่าน Egvekinot ชูคอตกา สู่ Zyryanka ในสาธารณรัฐซาคา (Yakutia) และเชื่อมต่อกับสายหลักของรัสเซีย
### มิติเชิงยุทธศาสตร์และการพัฒนา
แม้แนวคิดนี้จะมีมาก่อนหน้านี้ แต่โครงการได้รับการหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งภายใต้บริบททางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ เพื่อเน้นย้ำศักยภาพความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็น “เพื่อนบ้านทางภูมิศาสตร์” ที่แท้จริง
ดมิตรีเยฟเน้นย้ำว่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสสำรวจและใช้ทรัพยากรร่วมกัน แต่ยังสร้างตำแหน่งงานใหม่ ขยายกิจกรรมเศรษฐกิจ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ และเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างอนาคตร่วมกันได้อย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์มองว่า โครงการนี้ตอบสนองวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และมุ่งเน้นการสร้างมรดกด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่การเชื่อมต่อสหรัฐฯ กับรัสเซียอาจเป็นแนวทางใหม่ในการเสริมสร้างขีดความสามารถเชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะยาว
ทั้งนี้ ช่องแคบแบริ่งถือเป็นจุดที่มีระยะทางระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับยูเรเซียที่สั้นที่สุด เมื่อเทียบกับเส้นทางเดินเรือระหว่างท่าเรือสหรัฐฯ กับยุโรปที่มากกว่า 3,000 กิโลเมตร
---
IMCT NEWS
ที่มา https://russiaspivottoasia.com/russian-far-east-putin-trump-tunnel-to-alaska-proposed/
-----------------------------
'ปูติน–ทรัมป์' โทรฯสายตรง ถกทางออกสันติภาพยูเครน 'ปูติน ย้ำ Tomahawk จะบั่นทอนสัมพันธ์ทวิภาคี รัสเซีย-สหรัฐฯ
18-10-2025
RT รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดรอบใหม่เกี่ยวกับรายงานการเตรียมส่งมอบขีปนาวุธร่อน Tomahawk ของสหรัฐฯ ให้ยูเครน และกระบวนการเจรจาสันติภาพที่ยังชะงักงัน
ทรัมป์เปิดเผยว่าการสนทนาเป็นไปอย่าง “มีประสิทธิผลมาก” และได้ประกาศเตรียมจัดการประชุมสุดยอด (summit) กับปูตินในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ขณะที่ยูรี อูชาคอฟ (Yury Ushakov) ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของปูตินได้ออกแถลงสรุปเนื้อหาการพูดคุยในเวลาต่อมา
### การสนทนาเชิงตรงไปตรงมา
อูชาคอฟระบุว่าการพูดคุยซึ่งกินเวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็น “การสนทนาที่ยาวนาน มีสาระมาก และเปิดเผยอย่างยิ่ง” พร้อมเผยว่าปูตินได้แสดงความยินดีกับทรัมป์ต่อความสำเร็จในการเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยการหยุดยิงในฉนวนกาซา
### ยูเครนเป็นจุดสนใจหลัก
ในช่วงหารือ ปูตินย้ำว่ารัสเซียต้องการเห็น “การแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติทางการเมืองและการทูต” สำหรับความขัดแย้งในยูเครน โดยระบุว่ากองทัพรัสเซีย “ถือครองความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในทุกแนวรบ” และกำลัง “ตอบโต้การโจมตีเป้าหมายพลเรือนของยูเครนอย่างเหมาะสม” ตามถ้อยแถลงของอูชาคอฟ
### เตือนการส่ง Tomahawk กระทบโอกาสสันติภาพ
ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า การส่งมอบขีปนาวุธร่อน Tomahawk ให้ยูเครน แม้จะ “ไม่เปลี่ยนแปลงพลวัตของสมรภูมิ” แต่จะ “บ่อนทำลายโอกาสของการเจรจาสันติภาพอย่างรุนแรง” และกระทบความสัมพันธ์รัสเซีย–สหรัฐฯ อย่างหนัก ขีปนาวุธรุ่นนี้มีพิสัยยิงไกลถึง 2,500 กิโลเมตร (ประมาณ 1,550 ไมล์) สามารถเข้าถึงกรุงมอสโกและเมืองสำคัญลึกเข้าไปในรัสเซียได้
### เตรียมจัดประชุมซัมมิตครั้งใหม่
อูชาคอฟเปิดเผยว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มจัดเตรียมการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปโดยทันที โดยบูดาเปสต์ถูกเสนอเป็นสถานที่จัดงาน ทั้งนี้ การเตรียมงานจะรวมถึงการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio)
วิกเตอร์ ออร์บาน (Viktor Orban) นายกรัฐมนตรีฮังการี โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาได้พูดคุยกับทรัมป์เช่นกัน และขณะนี้การเตรียมการสำหรับการประชุมซัมมิตกำลังเดินหน้า
ทั้งนี้ การพบกันระหว่างปูตินและทรัมป์แบบตัวต่อตัวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นที่อลาสก้าเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้จะไม่มีข้อตกลงสำคัญเกิดขึ้น แต่ทั้งสองผู้นำต่างมองว่าการประชุมดังกล่าวเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการผลักดันกระบวนการสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนให้เดินหน้าต่อไป
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/626573-putin-trump-call-recap/