.

สหรัฐฯ-อังกฤษ 'ยึดบิตคอยน์ $15,000 ล้าน' กวาดล้างเครือข่าย 'ฉ้อโกงคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โยงฟอกเงิน-ค้ามนุษย์'
16-10-2025
Asia Times รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (US Department of Justice - DOJ) ได้เริ่มคดีการริบทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเกี่ยวข้องกับ Bitcoin มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อยู่ในความดูแลของสหรัฐฯ (US custody) การดำเนินการครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายบริษัทที่พัวพันกับการฟอกเงิน, การฉ้อโกงการลงทุน, การใช้แรงงานบังคับ และอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (Office of Foreign Assets Control - OFAC) และ เครือข่ายบังคับใช้กฎหมายทางการเงิน (Financial Crimes Enforcement Network - FinCEN) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (US Department of the Treasury) ได้ประสานงานกับ สำนักงานต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักร (FCDO) เพื่อดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อเครือข่ายการฉ้อโกงที่ใช้สกุลเงินคริปโตเป็นเครื่องมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia)
มาตรการนี้รวมถึงการขึ้นบัญชีดำ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ Prince Group (Prince Group Transnational Criminal Organization - TCO) และเครือข่ายบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 146 เป้าหมาย ซึ่งมีส่วนร่วมในปฏิบัติการหลอกลวงที่เรียกว่า "Pig Butchering Scam" (การหลอกให้เหยื่อลงทุนในคริปโตจนหมดตัว) รวมถึงการดำเนินงานของบุคคลสำคัญอย่าง นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi)
คริปโตฯ (Cryptocurrency) เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการ
ปฏิบัติการทางคริปโตของเครือข่ายนี้รวมถึงการขุด Bitcoin ผ่านบริษัท Warp Data Technology และการฟอกเงินที่ได้จากการฉ้อโกง นอกจากนี้ Huione Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงินหลัก ถูกตัดขาดจากระบบการเงินของสหรัฐฯ (US financial system) อย่างเป็นทางการ หลังจากที่บริษัทดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นแหล่งฟอกเงินหลักภายใต้มาตรการพิเศษของ FinCEN
Huione Group ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินที่ได้จากคริปโตมิชอบด้วยกฎหมายไปกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้ประมวลผลกระแสเงินคริปโตเข้า (cryptocurrency inflows) รวมกว่า 98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 4 ปีครึ่งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้เปิดเผยการฟ้องร้องต่อนาย เฉิน จื้อ (Chen Zhi) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วินเซนต์" (Vincent) ผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Holding Group (Prince Group) พร้อมทั้งยื่นคำร้องริบทรัพย์ทางแพ่งมูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงกับ Bitcoin ประมาณ 127,000 BTC อันเป็นผลจากแผนการฉ้อโกงดังกล่าว
ฐานอาชญากรรมและเส้นทางฟอกเงิน
Jin Bei Group Co. Ltd. ซึ่งเป็นเครือโรงแรมหรูและคาสิโนที่เชื่อมโยงกับ Prince Group ถูกเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญาหลายชุดในกัมพูชา (Cambodia) รวมถึงการกรรโชกทรัพย์, การใช้แรงงานบังคับ, การฉ้อโกงขนาดใหญ่ และคดีฆาตกรรมพลเมืองชาวจีนวัย 25 ปี อย่างโหดเหี้ยมในปี 2023
การสืบสวนของ FBI ในปี 2022 พบว่ามีชาวอเมริกัน 259 คนที่สูญเงินรวม 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับกลุ่มนักต้มตุ๋นที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารของ Jin Bei ซึ่งเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของความเสียหายทางการเงินทั้งหมดที่เกิดจากกลุ่มนี้
นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) และเครือข่ายผู้สมรู้ร่วมคิดระดับสูง ได้ใช้เครือข่ายบริษัทและบริษัทย่อยจำนวนมากในการประสานงานการฟอกเงิน, การฉ้อโกงการลงทุน, การใช้แรงงานบังคับ และอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia)
หัวใจสำคัญของการปฏิบัติการนี้อยู่ที่กระเป๋าเงิน Bitcoin 4 บัญชีที่ควบคุมโดย นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ซึ่งสะสม Bitcoin ได้มากกว่า 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา นอกจากนี้ องค์กรยังดำเนินการขุด Bitcoin ในลาว (Laos) ผ่าน Warp Data Technology ซึ่งส่ง Bitcoin จำนวนมากไปยังกระเป๋าเงินที่ควบคุมโดย นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) โดยเป็นส่วนหนึ่งของการหลอกลวงแบบ "Pig Butchering"
ผลกระทบต่อการกำกับดูแลคริปโต
การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นความพยายามที่ใหญ่ที่สุดและประสานงานกันมากที่สุดในการกำหนดเป้าหมายเครือข่ายการฉ้อโกงที่ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) รวมถึงการยึด Bitcoin มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ การริบทรัพย์ครั้งประวัติศาสตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบและยึดทรัพย์สินคริปโตที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
เพื่อป้องกันเครือข่ายการฉ้อโกงเหล่านี้ ธุรกิจคริปโตควรคัดกรองธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานและบุคคลที่ถูกกำหนดใหม่เหล่านี้ ตรวจสอบรูปแบบการฉ้อโกงแบบ "Pig Butchering" ที่เป็นแบบฉบับ และระวังการเชื่อมต่อกับ Huione Group ซึ่งถูกตัดขาดจากระบบการเงินของสหรัฐฯ (US financial system) แล้ว
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/10/doj-seizes-15-billion-bitcoin-in-se-asia-crypto-scam-bust/
Picture: US Attorney’s Office Court Filing
-----------------------
โฆษก “ฮุนเซน” ยันนายใหญ่ไม่มีวันขอร้องไทยเปิดด่าน ย้ำปิด 100 ปีกัมพูชาก็ไม่ล่มสลาย
16-10-2025
โฆษกฮุนเซน ยืนยันนายใหญ่ไม่ลดตัวลงไปขอร้องให้ไทยเปิดด่านในวัน 20 ต.ค.ตามที่มีกระแสข่าว ย้ำให้ปิดไปเป็น 100 ปีกัมพูชาก็ไม่ล่มสลาย จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้กดดันให้ไทยเปิดด่านเป็นปกติในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นจะสั่งห้ามนำเข้าสินค้าไทยทุกช่องทาง ซึ่งต่อมา พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมได้แถลงย้ำจุดยืนของฝ่ายไทยว่า หากจะให้เปิดด่านเป็นปกติ กัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข 4 ข้อก่อน คือ ถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ และบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาร่วมกัน นั้น
ล่าสุด นายเจีย ธิริธ โฆษกของนายฮุนเซน ได้ออกมาปฏิเสธว่า นายฮุนเซนไม่ได้ผ่อนปรนท่าทีในการขอร้องให้ไทยในวันที่ 20 ตุลาคม ตามที่มีรายงานข่าว
พร้อมย้ำว่า นายฮุนเซนเคยแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเพิ่งโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ว่า “นับตั้งแต่กองทัพไทยปิดพรมแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยขอให้ฝ่ายไทยเปิดจุดผ่านแดนเลย แต่ได้แจ้งฝ่ายไทยเพียงว่า (ไทยเป็นผู้ปิด ไทยก็ต้องเป็นผู้เปิด ไม่จำเป็นต้องเจรจากับกัมพูชา หากไทยเปิดพรมแดน กัมพูชาจะเปิดตามหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง)” จุดยืนของกัมพูชาจะไม่เปลี่ยนแปลง และกัมพูชาจะไม่ลังเลที่จะขอให้เปิดจุดผ่านแดน ไทยสามารถปิดต่อไปได้ แม้จะนานถึง 100 ปี กัมพูชาจะไม่ล่มสลาย
ที่มา Mgronline.com