หนทางเดียวที่ราคาทองคำจะไปถึง 10,000 ดอลลาร์
หนทางเดียวที่ราคาทองคำจะไปถึง 10,000 ดอลลาร์ คือมันต้องทะลุ 5,000 ดอลลาร์ในปี 2026 และนี่คือวิธีที่มันสามารถเกิดขึ้นได้
22-11-2025
เมื่อเราเข้าสู่ครึ่งหลังของไตรมาสที่สี่ของปี 2025 และก้าวเข้าสู่ปี 2026 โมเมนตัมของทองคำกำลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยราคาพุ่งขึ้นกว่า 10% ในเดือนกันยายน (ผลงานรายเดือนที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2016), 5% ในเดือนตุลาคม (ทำสถิติสูงสุดใหม่), 4% ในเดือนพฤศจิกายน และทะยานเกือบ 55% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ทองคำกำลังมุ่งหน้าสู่การทำผลงานประจำปีที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 1979 และหากเงื่อนไขเอื้ออำนวย เราอาจเห็นทองคำแตะ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2026
แนวโน้มของทองคำยังคงสดใสอย่างมาก ทั่วโลกหลายประเทศกำลังเผชิญกับการเติบโตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวควบคู่กับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบมีเงินเฟ้อ (stagflation) ซึ่งเป็นสภาวะที่เอื้อต่อราคาทองคำ เมื่อพิจารณาราคาเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าทองคำให้ผลตอบแทนดีทั่วโลก และซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย ปอนด์อังกฤษ ยูโร รูปีอินเดีย และเยนญี่ปุ่น
มีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ผลักดันให้ราคาทองคำยังคงได้รับแรงสนับสนุนเข้าสู่ปี 2026 — และทั้งสามกำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน
ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังกระจายการถือครองออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่น ๆ พร้อมเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรอง แนวโน้มนี้เริ่มต้นในปี 2022 ท่ามกลางความขัดแย้งรัสเซีย–ยูเครน ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ถือทองคำเฉลี่ยประมาณ 20% ของทุนสำรอง โดยจีนถือเพียง 8% เป้าหมายคือการเพิ่มตัวเลขเฉลี่ยนี้เป็น 30% เนื่องจากธนาคารกลางพยายามป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความเสี่ยงทางการเงินในปีต่อ ๆ ไป
การติดตามตลาดโลหะมีค่าไม่เคยง่ายเท่านี้มาก่อน
การถือครองกองทุนทองคำ (Gold ETF Holdings)
ปีนี้มีการเพิ่มขึ้นของการถือครองกองทุน ETF ทองคำมากถึง 17% สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนที่มองทองคำเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างเพิ่มสินค้าโภคภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง และน้ำมันดิบ เข้าไปในพอร์ต 60/40 แบบดั้งเดิม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ค่าเงินอ่อนค่า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
เครื่องมือ CME FedWatch
แม้ว่าช่วงเวลาอาจยังไม่แน่นอน แต่ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยชัดเจน — การกลับมาลดดอกเบี้ยในปี 2026 จะวางรากฐานสำหรับช่วงขาขึ้นถัดไป และเป็นแรงหนุนสำคัญสำหรับทองคำ เมื่อเริ่มมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สม่ำเสมอมากขึ้น จะช่วยลดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเส้นทางดอกเบี้ยของเฟด และทำให้นักลงทุนเข้าใจข้อมูลสำคัญ เช่น การจ้างงานและเงินเฟ้อได้ชัดเจนขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนโฟกัสของตลาดกลับไปที่แนวโน้มการคลังสหรัฐ
ตัวอย่างไอเดียการเทรด
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปีและต้นปี 2026 ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ถึงรูปแบบ “ฤดูกาลแข็งแกร่ง” ในการซื้อสัญญาทองคำเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนและขายช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งเห็นได้ชัดในทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ จึงมียุทธศาสตร์ตัวอย่างคือการซื้อสัญญา February Micro Gold (10 ออนซ์) ซึ่งทุกการเคลื่อนที่ $1 ให้กำไรหรือขาดทุน $10
เป้าหมายราคา: $5,000 ซึ่งหากทะลุระดับนี้ได้ อาจเปิดทางไปสู่ $10,000 ในปี 2027
ราคาเข้าซื้อ: $4,100
ระดับตัดขาดทุน: $3,900
ความเสี่ยง: $2,000
ผลตอบแทนที่เป็นไปได้: $9,000
โปรดจำไว้ว่า คุณจะต้องโรลสัญญาตามรอบภายในปี ได้แก่ เดือนกุมภาพันธ์ มิถุนายน และธันวาคม ทองคำมักเผชิญความท้าทายเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น และทั้งสองปัจจัยเกิดการเบรกทะลุขึ้นด้านบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีท่าทีแข็งกร้าวเพื่อตอบสนองต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ที่มา Kitco News