สรุปสถานการณ์ทองคำและเงินปี 2025 และ วิเคราะห์ทิศทางทองคำ โลหะมีค่าในปี 2026

29-12-2025

    Money Metals  สรุปทองคำ-เงินปี 2025 พุ่งแรงรับแรงหนุนเอเชีย ท่ามกลางการปฏิรูป "เงินตราที่มั่นคง" ทั่วสหรัฐฯ 'เทรนด์ปี 2026 ผลักดัน ก.ม.ตรวจสอบคลังสำรอง' ในตอนล่าสุดของรายการพอดแคสต์ Money Metals พิธีกร ไมก์ มหารีย์ (Mike Maharrey) ได้ร่วมสนทนากับ สเตฟาน กลีสัน (Stefan Gleason) ซีอีโอของ Money Metals และ เจพี คอร์เทซ (Jp Cortez) ผู้อำนวยการบริหารของ Sound Money Defense League เพื่อทบทวนตลาดโลหะมีค่าที่เติบโตอย่างรุนแรงในปี 2025 และกระแสการผลักดันเพื่อรื้อฟื้นนโยบายเงินตราที่มั่นคง (Sound Money) ทั่วสหรัฐฯ

ตลาดกระทิงที่ขับเคลื่อนโดยเอเชียและธนาคารกลาง

สเตฟาน กลีสัน ระบุว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดโลหะมีค่าได้ตอบสนองต่อความไร้เสถียรภาพของโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องข้อพิพาททางการค้า สงคราม การแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร (Bank runs) การเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และเหตุพยายามลอบสังหาร โดยเขามองว่าการที่ราคาทองคำพุ่งจาก 2,000 ดอลลาร์ ไปถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเรื่องราวที่ขับเคลื่อนโดยฝั่งเอเชียและธนาคารกลางเป็นหลัก โดยที่นักลงทุนรายย่อยในสหรัฐฯ ไม่ใช่แรงผลักดันหลักในช่วงแรก

กลีสันชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างดีลเลอร์ออนไลน์และร้านเหรียญทองท้องถิ่น (Local Coin Shops - LCS) โดยระบุว่าร้านท้องถิ่นเผชิญกับภาวะสินค้าล้นคลังจากการที่ผู้ถือครองนำทองคำออกมาขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายฤดูร้อนที่ผ่านมา ความต้องการใหม่เริ่มปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีผู้ซื้อหน้าใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น เนื่องจากชาวอเมริกันเริ่มตระหนักถึง "การเสื่อมค่าของเงินตราอย่างต่อเนื่อง" (Serial devaluation) และตลาดรายย่อยเริ่มตื่นตัวในที่สุด

สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มหันหาทองคำ

จุดเปลี่ยนสำคัญที่มหารีย์และกลีสันระบุคือการที่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน (CIO) ของ Morgan Stanley ได้ออกมาวิจารณ์พอร์ตการลงทุนแบบดั้งเดิม 60/40 และแนะนำให้นักลงทุนโยกย้ายเงินทุนร้อยละ 20 จากพันธบัตรไปถือครองทองคำแทน ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญจากสถาบันทางการเงินที่นักลงทุนจำนวนมากให้ความสำคัญ แม้ปัจจุบันจะมีนักลงทุนในสหรัฐฯ เพียงร้อยละ 1-2 เท่านั้นที่ถือครองทองคำอยู่จริง

บทบาทของ Sound Money Defense League และผลงานด้านกฎหมาย

เจพี คอร์เทซ อธิบายว่า Sound Money Defense League มุ่งเน้นไปที่การคืนสถานะให้ทองคำและแร่เงินเป็นเงินตราตามกฎหมาย (Remonetizing) ผ่านการเคลื่อนไหวทางการศึกษาและระดับนิติบัญญัติ โดยในปี 2025 มีการเสนอรายงานกฎหมายกว่า 65 ฉบับในกว่า 31 รัฐ ซึ่งถือเป็นร้อยละ 70 ของรัฐทั่วประเทศที่กำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเงินตราที่มั่นคง

ความสำเร็จที่สำคัญในปี 2025 ได้แก่ รัฐเคนทักกี (Kentucky) ที่ยกเลิกภาษีการขายโลหะมีค่า รัฐไอดาโฮ (Idaho) ที่ยกเลิกภาษีจากกำไรส่วนต่าง (Capital gains tax) สำหรับโลหะมีค่า และรัฐไวโอมิง (Wyoming) ที่จัดตั้งคลังสำรองทองคำมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบทองคำแท่งซึ่งจัดเก็บไว้ภายในรัฐเอง นอกจากนี้ คอร์เทซยังชี้ถึงดัชนีเงินตราที่มั่นคงปี 2026 (2026 Sound Money Index) ที่จัดอันดับรัฐที่มีนโยบายสนับสนุนหรือต่อต้านทองคำ โดยระบุว่ารัฐวอชิงตัน (Washington) และรัฐแมริแลนด์ (Maryland) มีอันดับลดลงฮวบเนื่องจากการกลับมาจัดเก็บภาษีการขาย

การขับเคลื่อนในระดับรัฐบาลกลาง: การตรวจสอบและการปรับปรุงทองคำสำรอง

ในระดับรัฐบาลกลาง คอร์เทซชี้ถึงการที่ ส.ส. โทมัส แมสซี (Thomas Massie) เสนอรายงานกฎหมาย "Gold Reserve Transparency Act" ในเดือนมิถุนายน เพื่อขอตรวจสอบคลังสำรองทองคำของประเทศอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากที่ผ่านมาการตรวจสอบมักเน้นไปที่เพียงตัวซีลและกุญแจล็อกเท่านั้น โดยกฎหมายนี้จะบังคับให้มีการตรวจนับสินค้าคงคลัง การทดสอบความบริสุทธิ์ (Assaying) และเปิดเผยรายการธุรกรรมทั้งหมด

ขณะที่ ส.ว. ไมก์ ลี (Mike Lee) ได้เสนอรายงานกฎหมายในลักษณะเดียวกันพร้อมข้อกำหนดเพิ่มเติมให้มีการ "ปรับปรุงความบริสุทธิ์" (Refining) ทองคำสำรองของอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นทองคำแท่งความบริสุทธิ์ร้อยละ 90 จากยุคปี 1933 ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานตลาดโลกในปัจจุบัน เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องและความพร้อมในการใช้งาน

คำเตือนเรื่องความเป็นส่วนตัวและคลังจัดเก็บใหม่

คอร์เทซยังได้เตือนถึงรายงานกฎหมายบางฉบับที่อ้างว่าสนับสนุนทองคำ แต่แฝงไปด้วยระเบียบการสอดแนมและทำลายความเป็นส่วนตัวของผู้ถือครอง พร้อมแสดงความเคลือบแคลงต่อคลังเก็บทองคำที่บริหารโดยรัฐบาล โดยมองว่าคลังเก็บของเอกชนมีความปลอดภัยและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่า

การขยายตัวของคลังจัดเก็บ Money Metals

สเตฟาน กลีสัน เปิดเผยถึงการขยายคลังจัดเก็บ (Depository) ในรัฐไอดาโฮ ซึ่งถือเป็นคลังจัดเก็บที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกของนิวยอร์ก โดยมีพื้นที่เก็บทองคำนิรภัย (Class 3 vault) ขนาด 8,500 ตารางฟุต ภายในอาคารขนาด 40,000 ตารางฟุต (ขยายได้ถึง 70,000 ตารางฟุต) ซึ่งกลีสันอ้างว่ามีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของฟอร์ตน็อกซ์ (Fort Knox) พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงและบริหารโดยอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ซึ่งบริการนี้จะรวมถึงการซื้อ ขาย จัดเก็บ และการปล่อยสินเชื่อโดยใช้ทองคำเป็นหลักประกันในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าร้อยละ 10

ทัศนคติสู่ปี 2026

ในช่วงท้ายรายการ กลีสันกระตุ้นให้ผู้ฟังเลิกมองความมั่งคั่งผ่านเลนส์ของเงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากค่าเงินเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง และให้ใช้ทองคำหรือแร่เงินเป็นจุดอ้างอิงแทน โดยเขาเชื่อว่าแร่เงินอาจกำลังเข้าสู่ยุคราคาใหม่หลังจากถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์มานานกว่า 45 ปี ขณะที่คอร์เทซย้ำว่าภาคประชาชนยังมีอำนาจในการผลักดันนโยบาย โดยเฉพาะในระดับรัฐ และขอให้ส่งเสียงถึงเหล่านักการเมืองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่ถูกต้องต่อไป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/12/27/money-metals-podcast-year-end-roundtable-gold-silver-and-sound-money-in-2025-004575