.
ทองคำปรับฐานรุนแรงอาจหลุด $4,000 กระทิงทองคำแค่ "พักเหนื่อย" หรือ "สิ้นสุดทางวิ่ง"?
30-10-2025
Money Metals รายงานว่า ราคาทองคำได้เผชิญกับการเทขายอย่างหนักในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และกำลังพยายามประคองตัวให้อยู่เหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าการปรับฐานครั้งนี้จะดูรุนแรง แต่นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาว่าปัจจัยพื้นฐานที่ผลักดันให้ราคาทองคำทำสถิติใหม่ยังคงแข็งแกร่งอยู่หรือไม่
ภาพรวมตลาด: การปรับฐานในตลาดขาขึ้น นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 89% โดยมีการพุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่งจาก $3,500 สู่ $4,000 ในเวลาเพียง 36 วัน การปรับฐานครั้งใหญ่ในตลาดกระทิงถือเป็นเรื่องปกติและเป็นกลไกที่ช่วยให้ตลาดมีสุขภาพดี แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องถามตัวเองคือ: ปัจจัยพื้นฐานที่หนุนราคายังอยู่ครบหรือไม่?
สองปัจจัยหลักที่กดดันราคาระยะสั้น การเทขายในปัจจุบันดูเหมือนจะได้รับแรงหนุนจากสองปัจจัยหลัก:
การทำกำไร (Profit-Taking): เมื่อราคาทองคำทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนมากจึงถือโอกาสนี้ขายเพื่อทำกำไรขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแรงกดดันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง คำถามคือ เมื่อใดที่นักลงทุนที่มองหา "ของดีราคาถูก" (bargain seekers) จะเข้ามาในตลาดและช่วยให้ราคามีเสถียรภาพ
อารมณ์ 'Risk On': ตลาดมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าสหรัฐฯ และจีนอาจใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าสู่โหมด "เข้าหาความเสี่ยง" (Risk On) ส่งผลให้ตลาดหุ้น เช่น S&P 500 ทำสถิติสูงสุดใหม่ และกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงกังขาว่าประเด็นพื้นฐานที่ซับซ้อน เช่น ความมั่นคงแห่งชาติและการแข่งขันด้านเทคโนโลยี จะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ผ่านข้อตกลงการค้าหรือไม่ ซึ่งหมายความว่า ความไม่แน่นอนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ในตลาดการเงิน
ปัจจัยพื้นฐานที่ยังหนุนตลาดขาขึ้น
แม้จะมีการปรับตัวลง แต่กรณีของ "กระทิงทองคำ" ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากมีปัจจัยหนุนอย่างน้อย 5 ประการที่ยังคงมีผล:
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ลดลง (Falling Real Interest Rates)
ภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ (Persistent Inflation)
ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าอย่างต่อเนื่อง (Ongoing Geopolitical Uncertainty)
ความไม่รับผิดชอบทางการคลังของสหรัฐฯ และการลดบทบาทเงินดอลลาร์ (De-dollarization)
ความเสี่ยงเชิงระบบในระบบการเงิน (Systemic Risks)
แนวโน้มระยะกลางและระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะยาว แต่เตือนให้ระวังการรวมฐานราคา:
ช่วงรวมฐาน (Consolidation): Ole Hansen นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ชี้ว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วง รวมฐานด้านข้าง (sideways) ที่ยาวนานขึ้น คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นหลังทองคำทะลุ $3,000 ในเดือนเมษายน ซึ่งกินเวลา 4 เดือน เขามองว่า การพุ่งขึ้นรอบถัดไปอาจเป็นเรื่องราวของปี 2026
เป้าหมาย $5,000: บริษัท Metals Focus ยังคงคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ $5,000 ต่อออนซ์ภายในปี 2026 โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางการค้า นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ
Morgan Stanley คาดการณ์เพิ่ม: Morgan Stanley ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาสำหรับปีใหม่เป็น $4,400 โดยมองว่าทองคำเป็นมาตรวัดสำหรับทุกอย่าง ตั้งแต่นโยบายธนาคารกลางไปจนถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
อุปสงค์จากสถาบัน: ความต้องการทองคำยังคงได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าซื้อของ ธนาคารกลาง ที่ยังคงต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการลงทุนใน กองทุน ETF ทองคำที่ทำสถิติไหลเข้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight สรุปว่า การปรับฐานครั้งนี้เป็นเพียงการรวมฐานที่ดีต่อสุขภาพภายใน ตลาดกระทิงเชิงโครงสร้างในวงกว้าง และศักยภาพในการปรับตัวลงของทองคำนั้น "จำกัด"
การปรับฐานครั้งนี้อาจเปิดโอกาสให้นักลงทุนระยะยาวเข้าสะสมทองคำอีกครั้ง หากคุณกำลังพิจารณาเข้าลงทุนเพิ่มเติม คุณคิดว่าจะให้ความสำคัญกับปัจจัยใดมากที่สุด: การลดบทบาทเงินดอลลาร์ (de-dollarization) หรือการซื้อของธนาคารกลาง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/10/28/gold-bulls-take-a-beating-but-are-they-down-and-out-004441