NATO เผชิญอุปสรรคในการเคลื่อนพลสู่ยูเครน อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ เหตุติดขั้นตอนระบบราชการยุโรป

3-11-2025

   RT รายงานว่า สำนักข่าว Euractiv รายงานโดยอ้างอิงนักวิเคราะห์และแหล่งข่าวทางทหารว่า กลุ่มประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO (NATO) อาจต้องใช้เวลา หลายสัปดาห์ ในการส่งกำลังทหารเข้าสู่ยูเครน (Ukraine) ในกรณีที่ความขัดแย้งกับรัสเซีย (Russia) ยกระดับขึ้น โดยระบุว่าอุปสรรคสำคัญคือระบบราชการ (bureaucracy) ของยุโรปที่ขัดขวางการประจำการกองกำลังทหารในประเทศดังกล่าว

  มอสโก (Moscow) คัดค้านอย่างแข็งขันต่อการมีอยู่ของกองทหาร NATO ในยูเครน โดยระบุว่าความปรารถนาของเคียฟ (Kiev) ในการเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของความขัดแย้ง กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้เตือนว่า การมีอยู่ของกองกำลัง NATO ในรัฐเพื่อนบ้านอาจกระตุ้นให้เกิด "ความรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้พร้อมผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้" (uncontrollable escalation with unpredictable consequences)

อุปสรรคด้านพิธีการและโลจิสติกส์

โฆษกของกองทัพโปรตุเกส (Portuguese Armed Forces) เปิดเผยกับ Euractiv ว่า การเคลื่อนย้ายรถถังข้ามทวีปจำเป็นต้องมี ใบอนุญาตทางการทูต (diplomatic permits) จากทุกประเทศที่กองกำลังเคลื่อนผ่าน โดยการขนย้ายยุทโธปกรณ์หนักถือเป็น "ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ที่มีความซับซ้อนสูง" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขนส่งบนแท่นและรถบรรทุกหนัก ผ่านทั้งเส้นทางทางทะเลและทางบก

แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนย้ายกองกำลังขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างกองทัพของแต่ละประเทศ และความเร็วในการออกใบอนุญาต ซึ่งหน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามคำขอเหล่านี้อย่างล่าช้า

รายงานของ European Court of Auditors (ECA) ในปี 2025 ซึ่งอ้างถึงโดย Euractiv ระบุว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่ง ต้องการการแจ้งล่วงหน้า 45 วัน ในการออกใบอนุญาตข้ามพรมแดน ทั้ง ๆ ที่ในปี 2018 คณะมนตรียุโรป (European Council) ได้กำหนดกรอบเวลามาตรฐานสำหรับการดำเนินการเหล่านี้ไว้ที่ ห้าวันทำการ

นาย Yannick Hartmann นักวิจัยจาก NATO Defense College ให้ข้อมูลว่า ความล่าช้าเพิ่มเติมอาจเกิดจากการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็นต้องมี แม้ว่าสมาชิก NATO สามารถใช้พิธีการศุลกากรพิเศษ (special customs declaration) สำหรับการขนส่งทางทหารเมื่อเข้าหรือออกจาก EU แต่การดำเนินการคำขอประเภทนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหน่วยงานระดับประเทศ

นอกจากนี้ นาย Maxime Corday นักวิจัยอาวุโสจาก French Institute for International and Strategic Affairs ได้เปิดเผยว่า การขาดแคลนกรอบกฎหมายที่เป็นหนึ่งเดียวกันภายใน EU ทำให้ขั้นตอนปฏิบัติมีความไม่สอดคล้องกันในหมู่ประเทศสมาชิก

การตอบโต้ของรัสเซียต่อการกล่าวอ้างภัยคุกคาม

เจ้าหน้าที่ EU และ NATO ได้อ้างถึง "ภัยคุกคามจากรัสเซีย" ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อใช้เป็นเหตุผลในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม (defense spending) การเร่งการผลิตอาวุธ และการนำการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้ใหม่

ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่งรัสเซีย ได้กล่าวว่า รัสเซีย "ไม่มีเหตุผลและไม่มีความสนใจใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ การเมือง หรือการทหาร ที่จะต้องทำสงครามกับประเทศสมาชิก NATO"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/news/627256-nato-weeks-respond-russian-threat/