.
สหรัฐฯทดสอบยิงขีปนาวุะข้ามทวีป Minuteman III
6-11-2025
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แจ้งให้รัสเซียทราบล่วงหน้าถึงความตั้งใจที่จะทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปแบบมินิทแมน III (Minuteman III Intercontinental Ballistic Missile) ก่อนที่การทดสอบจะเกิดขึ้นในวันพุธ ตามคำกล่าวของนายดมีตรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกประจำทำเนียบเครมลิน
เปสคอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าวในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า ขีปนาวุธรุ่นดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทของอาวุธที่ต้องมี “การแจ้งเตือนการยิง (launch identification)” ตามข้อกำหนดของกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเสริมว่า “เราก็แจ้งประเทศอื่นเช่นกันเมื่อมีการทดสอบในลักษณะนี้”
เมื่อกล่าวถึงขีดความสามารถทางทหารของรัสเซีย เปสคอฟระบุว่า แม้มอสโกจะ “ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้านอาวุธ” แต่ก็ได้พัฒนาอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของตนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ตามแผนระยะยาวของประเทศ เขายังอ้างด้วยว่าปัจจุบันรัสเซีย “ครอบครองโครงสร้างกองกำลังนิวเคลียร์สามเหลี่ยม (nuclear triad) ที่ทันสมัยที่สุดในโลก”
ในวันเดียวกันนั้น กองทัพอากาศสหรัฐฯ ประกาศว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปมินิทแมน III ที่ไม่มีหัวรบนิวเคลียร์ จากฐานกองกำลังอวกาศแวนเดนเบิร์ก (Vandenberg Space Force Base) ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้หนึ่งลูก โดยมีอานุภาพประมาณ 300 กิโลตันของทีเอ็นที หรือมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นในปี 1945 ถึง 20 เท่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้กระทรวงสงครามเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ เป็น “ประเทศเดียวที่ยังไม่ทำการทดสอบ” พร้อมกล่าวหาว่ารัสเซียและจีนได้ดำเนินการ “ทดสอบนิวเคลียร์ลับ” ซึ่งทั้งมอสโกและปักกิ่งต่างออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธ รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย อันเดรย์ เบลูซอฟ (Andrey Belousov) รายงานต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินว่า มอสโก “จำเป็นต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของวอชิงตัน” และควร “เริ่มเตรียมการสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์เต็มรูปแบบโดยทันที”
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า รัสเซียยังคงยึดมั่นในสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Nuclear-Test-Ban Treaty: CTBT) พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น ๆ ที่เป็นภาคีของสนธิสัญญาฉบับนี้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ รัสเซียก็จะต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน”
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาอาจกำลังวางแผนดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์ร่วมกับรัสเซียและจีน
ทรัมป์กล่าวในระหว่างการปราศรัยที่งาน American Business Forum ในเมืองไมอามีว่า “เราปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ของเราใหม่ทั้งหมด ตอนนี้เราคือประเทศที่มีอำนาจนิวเคลียร์อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งผมก็ไม่อยากพูดเลยเพราะมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ
เขากล่าวต่อว่า “รัสเซียเป็นอันดับสอง ส่วนจีนอยู่ห่างออกไปมาก แต่พวกเขาจะตามเราทันภายในสี่หรือห้าปีข้างหน้า เราอาจจะกำลังวางแผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ร่วมกันระหว่างสามประเทศ เราจะต้องรอดูกันว่ามันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่”
ทรัมป์ได้กล่าวหาว่ารัสเซียและจีนดำเนินการ “ทดสอบนิวเคลียร์ลับ” แม้ว่าทั้งมอสโกและปักกิ่งจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ก็ตาม ด้านราฟาเอล กรอสซี (Rafael Grossi) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ก็ได้ยืนยันว่า องค์กรไม่พบหลักฐานหรือสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าทั้งสองประเทศได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์
หลังจากคำแถลงของทรัมป์ นายดมีตรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า มอสโกกำลังรอการ “ชี้แจงเพิ่มเติมจากฝ่ายสหรัฐฯ” เพื่อให้เข้าใจถึงรายละเอียดและผลกระทบที่แท้จริงของคำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ที่มา RT