.
สหรัฐฯ-กัมพูชา รื้อฟื้นซ้อมรบ “Angkor Sentinel” หลังระงับ 8 ปี หนุนสัมพันธ์รอบใหม่ 'ผลจากข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา'
3-11-2025
SCMP รายงานว่า สหรัฐอเมริกา (US) และกัมพูชา (Cambodia) เตรียมรื้อฟื้นการฝึกซ้อมทางทหารหลักเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดของการปรับปรุงความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีการบรรลุข้อตกลงชุดใหญ่หลายฉบับ รวมถึงการลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย (Thailand) ที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
นาย พีท เฮกเซธ (Pete Hegseth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศการกลับมาของการฝึกซ้อม Angkor Sentinel หลังจากได้พบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา นอกรอบการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงในมาเลเซีย (Malaysia) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การฝึกซ้อมดังกล่าวถูกระงับไปในปี 2017 ในช่วงเวลาที่วอชิงตัน (Washington) วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพนมเปญ (Phnom Penh) อย่างหนักเรื่องปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ลงและการเสื่อมถอยของระบอบประชาธิปไตย
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
การประกาศนี้ถือเป็นการปิดฉากสัปดาห์สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชา ซึ่งรวมถึงการบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญในระหว่างการเยือนเอเชียสามประเทศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ดูแลการลงนามข้อตกลงสันติภาพเพื่อบรรเทาข้อพิพาทบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งเคยทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเมื่อต้นปีนี้
ตามรายงานสรุป รัฐมนตรีกลาโหมทั้งสองยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่ นาย เฮกเซธ (Hegseth) จะเข้าร่วมการเยือนฐานทัพเรือเรียม (Ream Naval Base) ของเรือรบกองทัพเรือสหรัฐฯ ในอนาคต
วอชิงตันมีความกังวลมานานแล้วว่า จีน (China) จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงฐานทัพเรือเรียมในอ่าวไทยแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงลับที่ลงนามเมื่อหกปีที่แล้ว และอ้างว่าท้ายที่สุดฐานทัพแห่งนี้จะกลายเป็นฐานที่ตั้งทางทหารแห่งแรกของปักกิ่งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific region)
ขยายความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม
ในประเด็นแยกต่างหาก นาย ฮุน มาเนต (Hun Manet) นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า เขาและ นาย แคช พาเทล (Kash Patel) ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI (Federal Bureau of Investigation) ได้ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์
กัมพูชา เช่นเดียวกับเมียนมา (Myanmar) และลาว (Laos) เป็นที่ตั้งของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ (transnational criminal networks) ที่ฉ้อโกงเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากเหยื่อทั่วโลก เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้กล่าวว่า ประเทศได้กระชับกฎระเบียบการต่อต้านการฟอกเงิน (anti-money-laundering rules) และพร้อมที่จะปราบปรามศูนย์หลอกลวง (scam centres) เนื่องจากกัมพูชาพยายามที่จะเป็นสมาชิกที่น่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมการเงินระหว่างประเทศ
"ในขั้นตอนต่อไป เราตกลงที่จะดำเนินการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงของกัมพูชาและ FBI เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับประชาชนและประเทศของเรา" นาย ฮุน มาเนต (Hun Manet) ระบุในโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/asia/southeast-asia/article/3331158/us-cambodia-military-drills-return-after-8-year-hiatus-amid-warming-ties?module=perpetual_scroll_1_RM&pgtype=article
----------------------------------
สหรัฐฯ-เวียดนาม เดินหน้าเจรจาขยายความร่วมมือด้านกลาโหม
3-11-2025
SCMP รายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เยือนเวียดนาม ผลักดันความสัมพันธ์ทางทหารลึกซึ้ง ท่ามกลางการหารือดีลจัดซื้ออาวุธสำคัญ
นาย พีท เฮกเซธ (Pete Hegseth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (US) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย (Hanoi) ในช่วงเริ่มต้นการเยือนเวียดนาม (Vietnam) ว่า สหรัฐฯ ต้องการความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับอดีตคู่สงครามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายนี้ ท่ามกลางการเจรจาที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับศักยภาพในการจัดหาอุปกรณ์ทางทหารของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่เวียดนามที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้ระบุว่า คาดว่านาย เฮกเซธ (Hegseth) จะเข้าพบกับผู้นำสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ นาย โต ลัม (To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ (Communist Party chief), ประธานาธิบดี เลือง เกือง (Luong Cuong) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฟาน วัน เกียง (Phan Van Giang)
ก่อนการประชุมกับรัฐมนตรี ฟาน วัน เกียง (Phan Van Giang) นาย เฮกเซธ (Hegseth) ซึ่งเดินทางถึงกรุงฮานอย (Hanoi) หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับคู่เจรจาในเอเชียที่มาเลเซีย (Malaysia) ได้กล่าวว่า "ความร่วมมือ [ทางทหาร] ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศของเราทั้งสอง"
เขากล่าวเสริมว่า สหรัฐฯ ได้ส่งมอบเรือตรวจการณ์ (cutters) จำนวน 3 ลำ ให้กับหน่วยยามฝั่งเวียดนาม (Vietnamese coastguard) และเครื่องบินฝึก T-6 trainer aircraft จำนวน 3 ลำ จากคำสั่งซื้อทั้งหมด 12 ลำไปแล้ว และตั้งใจที่จะดำเนินการเพิ่มมากขึ้นอีก
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ กระทรวงกลาโหมเวียดนาม (Vietnam’s defence ministry) ระบุว่า รัฐบาลทั้งสองตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงในด้านต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
เครื่องบินลำเลียงและเฮลิคอปเตอร์อยู่ในวาระการหารือ
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เวียดนามและแหล่งข่าวอื่น ๆ ที่ได้รับข้อมูลระบุตรงกันว่า การเจรจาเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธจากสหรัฐฯ คาดว่าจะเป็นหัวข้อสำคัญในวาระการประชุม โดยทั้งสองแหล่งข่าวกล่าวถึงเครื่องบินลำเลียงทางทหาร Lockheed Martin C-130 Hercules ว่าเป็นหนึ่งในรายการที่จะมีการหารืออย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งได้ยืนยันว่าประเด็น C-130s จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วย
แหล่งข่าวเวียดนามรายหนึ่งยังเปิดเผยว่า อาจมีการหารือเกี่ยวกับการจัดหาเฮลิคอปเตอร์จากสหรัฐฯ โดยเฉพาะรุ่น Lockheed Martin S-92s และ Boeing Chinooks อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวซึ่งขอสงวนนามเนื่องจากข้อมูลดังกล่าวยังไม่เป็นสาธารณะ ไม่แน่ชัดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหรือการประกาศใด ๆ ในวันอาทิตย์หรือไม่
ด้านบริษัท Boeing (Boeing) ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว โดยขอให้สอบถามไปยังรัฐบาลทั้งสอง ขณะที่รัฐบาลเวียดนาม เพนทากอน (Pentagon) และ Lockheed Martin (Lockheed Martin) ไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นในช่วงนอกเวลาทำการ
เวียดนามต้องการกระจายคลังอาวุธ
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ซึ่งพึ่งพาอาวุธจากรัสเซีย (Russia) เป็นหลัก ได้พยายามมองหาการกระจายแหล่งจัดซื้อยุทโธปกรณ์มาเป็นเวลาหลายปี การเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งได้ยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้กับเวียดนามในปี 2016 ได้รับแรงผลักดันมากขึ้นในช่วงสมัยรัฐบาลไบเดน (Biden administration) แต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการใด ๆ เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว Reuters (Reuters) ได้รายงานเกี่ยวกับการหารือเรื่องการขายเครื่องบิน C-130 ให้กับกระทรวงกลาโหมเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว และในเดือนกรกฎาคมได้รายงานถึงข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ S-92 จำนวน 2 ลำ หลังจากการเจรจาหลายปีกับกองกำลังรักษาความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า มีการหารือถึงความเป็นไปได้ที่ตำรวจเวียดนามจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ Chinook จำนวน 2-3 ลำด้วย และเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตำรวจรายงานว่า สนามบินใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาใกล้กรุงฮานอย (Hanoi) จะมีความเหมาะสมสำหรับเฮลิคอปเตอร์ Chinook CH-47D และรุ่นอื่น ๆ โดยเฮลิคอปเตอร์ Chinook เป็นอากาศยานรุ่นเดียวที่ถูกกล่าวถึงในรายงานดังกล่าวที่ยังไม่มีการใช้งานโดยกองกำลังของเวียดนามในปัจจุบัน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/asia/southeast-asia/article/3331229/pentagon-chief-hegseth-wants-closer-vietnam-ties-amid-arms-dealings?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article