ประธานWEF เตือนฟองสบู่คริปโต AI และหนี้สิน

6-11-2025

    ประธานสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) เตือนเมื่อวันพุธว่า โลกควรจับตาความเป็นไปได้ของ “ฟองสบู่ทางการเงิน” ที่อาจเกิดขึ้นในสามด้านหลัก ได้แก่ คริปโตเคอร์เรนซี (Crypto), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ หนี้สิน (Debt) คำเตือนนี้มีขึ้นในช่วงที่หุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกกำลังปรับตัวร่วงลงอย่างรุนแรง

   บรรดานายหน้าและนักวิเคราะห์มองว่าการปรับฐานของตลาดในครั้งนี้เป็นสัญญาณให้ระมัดระวัง แต่ยังไม่ถึงขั้นน่าตื่นตระหนก เนื่องจากตลาดเพิ่งทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมูลค่าหุ้นบางกลุ่มอาจสูงเกินความเป็นจริง

   บอร์ก เบรนเด (Borge Brende) ประธาน WEF กล่าวระหว่างการเยือนศูนย์กลางการเงินของบราซิล เมืองเซาเปาโลว่า “เรามีโอกาสจะเห็นฟองสบู่เกิดขึ้นในอนาคต โดยฟองสบู่แรกคือคริปโต ฟองสบู่ที่สองคือ AI และฟองสบู่ที่สามคือหนี้สิน”

   เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลทั่วโลกในขณะนี้มีระดับหนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1945” ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่ได้สนใจต่อความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง เงินเฟ้อที่ดื้อรั้น และความปั่นป่วนด้านการค้า โดยราคาหุ้นยังคงพุ่งขึ้นส่วนหนึ่งเพราะความคาดหวังว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถพลิกโฉมเศรษฐกิจโลกและภาคธุรกิจได้

  เบรนเดกล่าวว่า เทคโนโลยี AI อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก แต่ก็อาจคุกคามตำแหน่งงานของพนักงานสายออฟฟิศจำนวนมาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เขากล่าวว่า “ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เราอาจเห็นการเกิด ‘รัสต์เบลต์’ (Rust Belt) ในเมืองใหญ่ที่มีสำนักงานจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสามารถถูกแทนที่ได้ง่ายขึ้นด้วย AI และกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น”

  เขาอ้างถึงการประกาศปรับลดพนักงานของบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ เช่น Amazon และ Nestlé ในช่วงที่ผ่านมา

  อย่างไรก็ตาม เบรนเดกล่าวทิ้งท้ายว่า “เราทราบจากประวัติศาสตร์ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในระยะยาวมักนำไปสู่การเพิ่มผลผลิต และการเพิ่มผลผลิตคือหนทางเดียวที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับสังคมได้ในระยะยาว”

  “เมื่อเกิดการเติบโตเช่นนั้น เราสามารถจ่ายค่าจ้างที่ดีขึ้นให้กับผู้คน และนำไปสู่ความมั่งคั่งโดยรวมของสังคมในที่สุด”

ที่มา Yahoo Finance