จีน 'เมิน' แนวคิด G2 ของ ทรัมป์
จีน 'เมิน' แนวคิด G2 ของ ทรัมป์ หวั่นนัย 'การครอบงำ' กระทบยุทธศาสตร์ Global South
14-11-2025
SCMP รายงานว่า - เมื่อประธานาธิบดี สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ทวีตข้อความถึง “The G2” ก่อนการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) เมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าคำว่า G2 (Group of Two) จะบ่งชี้ถึงการยอมรับสถานะที่เท่าเทียมของจีน แต่ผู้นำจีนกลับแสดงท่าทีตอบรับอย่างเย็นชา เนื่องจากมีความกังวลถึง นัยแห่งการครอบงำ (hegemonic undertone) ที่แฝงอยู่ในแนวคิดดังกล่าว
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ ปักกิ่ง จะรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับการปฏิบัติจาก วอชิงตัน ว่าเป็นคู่ที่เท่าเทียมกัน แต่ผู้นำจีนจะไม่ยินดีเป็นพิเศษที่จะถูกจัดประเภทเป็น G2 พวกเขามองว่าคำนี้อาจสร้างความเสียหายให้กับความพยายามของจีนในการกระชับความสัมพันธ์กับโลกกำลังพัฒนา และอาจนำมาซึ่งความรับผิดชอบเพิ่มเติมที่จีนไม่ต้องการแบกรับ ขณะที่ความเห็นของ ทรัมป์ (Trump) ควรถูกมองว่าเป็นเพียง วาทศิลป์ทางการเมือง หรือการเยินยอก่อนการเจรจาทางการค้าเท่านั้น
ต้า เหว่ย (Da Wei) ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัย Tsinghua University กล่าวอย่างชัดเจนว่า “จีนไม่กระตือรือร้นกับแนวคิดและคำว่า ‘G2’ นี้” และย้ำว่าทัศนคตินี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากในอดีต
นัยแห่งการครอบงำและหลักการพหุภาคี
แนวคิด G2 ถูกเสนอโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ซี. เฟรด เบิร์กสเตน (C. Fred Bergsten) ในปี 2005 เพื่อให้ สหรัฐฯ และจีนร่วมกันจัดการปัญหาระดับโลก และเคยได้รับแรงผลักดันหลังวิกฤตการเงินปี 2008 แต่ไม่เคยถูกนำมาใช้เป็นนโยบายอย่างเป็นทางการ
ปักกิ่ง ไม่เคยยอมรับแนวคิดนี้เช่นกัน โดย เวิน เจียเป่า (Wen Jiabao) อดีตนายกรัฐมนตรี เคยปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวในปี 2009 โดยระบุว่า “ปัญหาระดับโลกควรได้รับการตัดสินใจโดยทุกประเทศในโลก ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสองประเทศ” และย้ำว่า “การมีหลายขั้วอำนาจและการพหุภาคี (Multipolarisation and multilateralism) เป็นแนวโน้มที่ใหญ่กว่า” พร้อมกล่าวว่า จีนจะไม่แสวงหาความเป็นเจ้าโลกอย่างเด็ดขาด
ต้า เหว่ย (Da Wei) อธิบายว่า “G2 บ่งชี้ว่าจีนและ สหรัฐฯ กำลังมีบทบาทชี้ขาดในกิจการระหว่างประเทศ ซึ่งไม่สอดคล้องกับปรัชญาและประเพณีทางการทูตระยะยาวของจีน” เนื่องจากมันมี นัยแห่งการครอบงำที่แข็งแกร่ง (strong hegemonic undertone)
การรักษาฐานที่มั่นใน Global South
โดมินิก ชิว (Dominic Chiu) นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Eurasia Group ระบุว่า ผู้นำจีนน่าจะยินดีกับความเห็น G2 ในทางส่วนตัว เนื่องจากเป็นการยอมรับสถานะที่เท่าเทียมกัน แต่ปฏิกิริยาต่อสาธารณะต้องดู “ไม่กระตือรือร้น” เพราะ “การปฏิเสธการครอบงำระหว่างประเทศต่อสาธารณะ” ของจีน
ชิว (Chiu) เสริมว่า วาทกรรมนี้อาจถูกตีความโดยประเทศที่สามว่าเป็นการ ครอบงำโลกโดยคู่มหาอำนาจ (global duopoly) ซึ่ง ปักกิ่ง ต้องการหลีกเลี่ยงด้วยเหตุผลทางการทูต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนพยายามวางกรอบตัวเองในฐานะผู้สนับสนุนและผู้นำของ Global South
ต้า (Da) เสริมว่า การเข้าร่วมกลุ่ม G2 อาจทำลายผลประโยชน์ของจีนในการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับโลกกำลังพัฒนา เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาหลัก ๆ เช่น อินเดีย (India) และบราซิล (Brazil) จะไม่ยอมรับแนวคิดที่บ่งบอกว่า สหรัฐฯ และจีนครอบงำกิจการโลก
หยู เจี๋ย (Yu Jie) นักวิจัยอาวุโสจาก Chatham House เห็นด้วยว่า ความเห็น G2 ของ ทรัมป์ (Trump) ควรถือเป็น “เรื่องของวาทศิลป์มากกว่านโยบายที่เป็นสาระสำคัญ” โดยระบุว่าการตอบสนองที่ระมัดระวังของจีนบ่งชี้ว่า ปักกิ่ง ไม่ต้องการเป็นผู้นำโลกในลักษณะเดียวกับที่ สหรัฐฯ ดำเนินการทางการทูต เพราะ “มันจะนำมาซึ่งความรับผิดชอบเพิ่มเติม และดึงจีนเข้าสู่ความขัดแย้งที่จีนไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ศาสตราจารย์ จา ต้าวเจียง (Zha Daojiong) จากมหาวิทยาลัย Peking University กล่าวสรุปว่า ทรัมป์ (Trump) อาจไม่ได้เสนอคำจำกัดความที่ชัดเจนของคำนี้ แต่ “อาจจะกำลังกล่าวถึงสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ” เกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตระหว่าง สหรัฐฯ และจีนเท่านั้น
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3332527/why-donald-trumps-g2-label-prompts-tepid-response-china?module=spotlight&pgtype=homepage