จีนเตือนพลเมือง "หลีกเลี่ยงการเดินทาง" เข้าญี่ปุ่น ชี้สัมพันธ์ทวิภาคีตึงเครียดถึงขีดสุดจาก 'คำพูดนายกฯ ทาคาอิจิ ปมไต้หวัน'

15-11-2025

   Newsweek รายงานว่า จีนเตือนพลเมือง "หลีกเลี่ยงการเดินทาง" เข้าญี่ปุ่น ชี้ท่าทีทวิภาคีเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรงจากข้อพิพาทไต้หวัน

  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น สืบเนื่องจากความเห็นของ นายกรัฐมนตรี ทากาอิชิ ซานาเอะ (Sanae Takaichi) เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ของญี่ปุ่นในความขัดแย้งช่องแคบไต้หวัน ที่สร้างความตึงเครียดทางการทูตให้ทวีความรุนแรงขึ้น กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า "บรรยากาศของการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อความปลอดภัยของพลเมืองจีน"

ตอกย้ำท่าทีแข็งกร้าวต่ออธิปไตย

แม้ว่าจีนจะยืนยันว่าไต้หวันซึ่งปกครองตนเองเป็นดินแดนของตน แต่หลายประเทศทั่วโลกมองว่าไต้หวันเป็นชาติที่มีอำนาจอธิปไตย ในขณะที่สหรัฐอเมริกา (US) ไม่ได้ให้การรับรองไต้หวันอย่างเป็นทางการ แต่บรรดาผู้นำก็แสดงความกังวลต่อความพยายามของจีนในการผนวกไต้หวันมาอยู่ภายใต้การควบคุมของปักกิ่งด้วยการใช้กำลังทหาร ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จีนได้ออกโรงข่มขู่ผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่ หลังจากที่ นายกรัฐมนตรี ทากาอิชิ (Takaichi) เสนอความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะส่งกำลังทหารไปยังภูมิภาคดังกล่าว หากจีนตัดสินใจใช้กำลัง

เพื่อตอบโต้ท่าทีดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ได้เรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบ พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ทากาอิชิ (Takaichi) ถอนคำพูด ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ได้ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน ต่อกรณีโพสต์ในโซเชียลมีเดียล่าสุดของนักการทูตจีนที่เชื่อมโยงกับคำกล่าวของผู้นำญี่ปุ่น

การประกาศ 'เส้นแดงที่ไม่อาจล่วงละเมิด'

นายซุน เหว่ยตง (Sun Weidong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวเตือนอย่างรุนแรงในการประชุมกับทูต เคนจิ คานาสุกิ (Kenji Kanasugi) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเรียกคำกล่าวของ ทากาอิชิ (Takaichi) ว่า "ผิดพลาดและอันตรายอย่างยิ่ง" และประกาศว่า "ใครก็ตามที่กล้าเข้าแทรกแซงในภารกิจการรวมชาติของจีนในรูปแบบใด ๆ จะต้องได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงอย่างแน่นอน" ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ

นายซุน (Sun) ย้ำว่า คำพูดที่ "ยั่วยุ" ของผู้นำญี่ปุ่น ซึ่งสื่อถึง "ความเป็นไปได้ของการแทรกแซงด้วยอาวุธในช่องแคบไต้หวัน" ได้บ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างร้ายแรง และกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชนจีนกว่า 1.4 พันล้านคน เขากล่าวหนักแน่นว่า "ชาวจีน 1.4 พันล้านคนจะไม่มีวันยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น"

นายซุน (Sun) ยืนกรานว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศนี้เป็นแกนหลักของผลประโยชน์สำคัญของจีน โดยเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น "เส้นแดงที่แตะต้องไม่ได้" (an untouchable red line) ซึ่งทูต คานาสุกิ (Kenji Kanasugi) ได้แสดงจุดยืนที่เห็นต่างอย่างชัดเจน ด้านกระทรวงกลาโหมจีนแถลงขู่ว่า หากญี่ปุ่นใช้กำลังเข้าแทรกแซง กองทัพปลดปล่อยประชาชน (People's Liberation Army - PLA) จะตอบโต้ด้วย "ความปราชัยอย่างยับเยิน" (a crushing defeat)

จุดยืนของญี่ปุ่น: การป้องกันตนเองร่วมใน 'กรณีเลวร้ายที่สุด'

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ทากาอิชิ (Takaichi) ได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า การโจมตีไต้หวันด้วยกำลังทหารของจีน อาจก่อให้เกิด "สถานการณ์ที่คุกคามต่อการอยู่รอด" (survival-threatening situation) สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สิทธิ์ในการป้องกันตนเองร่วมกัน (collective self-defense) โดยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เธอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะถอนคำพูด โดยกล่าวว่าคำพูดดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานของ "กรณีที่เลวร้ายที่สุด" (worst-case scenario)

เหตุการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดการตอบโต้ไปมาอย่างดุเดือดระหว่างสองประเทศเป็นเวลาหลายวัน พร้อมด้วยคำข่มขู่จากเจ้าหน้าที่จีน แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะลดความตึงเครียดลงอย่างต่อเนื่อง ญี่ปุ่นได้ระบุว่าเข้าใจจุดยืนของจีนต่อไต้หวัน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะถูกปกครองแยกจากกันมาตั้งแต่ปี 1949

การยืนยันท่าทีทางการทูต

นายหลิน เจียน (Lin Jian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวอย่างชัดเจนว่า "ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา เราจะไม่มีวันประนีประนอมใด ๆ ไม่มีใครควรท้าทายเส้นแดงของเรา กองกำลังใดก็ตามที่พยายามขัดขวางการรวมชาติของจีน จะต้องเผชิญกับความล้มเหลวอย่างแน่นอน"

ด้าน นายมิโนรุ คิฮาระ (Minoru Kihara) เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ว่า "ผมได้ให้คำอธิบายแก่รัฐบาลจีนแล้ว ถ้อยแถลงของ นายกรัฐมนตรี ทากาอิชิ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนในอดีตของรัฐบาลในประเด็นนี้ เสถียรภาพและสันติภาพของชะตากรรมไต้หวันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นและเสถียรภาพของประชาคมโลกโดยรวม ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันจะได้รับการแก้ไขบนพื้นฐานของการเจรจาด้วยสันติวิธี"

สำหรับทิศทางต่อไป ญี่ปุ่นดูเหมือนจะมุ่งแสวงหาการหารือและช่องทางทางการทูตเพิ่มเติมกับจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดให้เบาบางลง

----

IMCT NEWS

ที่มา

https://www.newsweek.com/china-japan-travel-warning-takaichi-taiwan-remarks-11049949