ผู้ต้องสงสัยชาวจีน1,178 คน ที่เกี่ยวข้องกับแก็งค์คอลล์เซ็นเตอร์ในเมียนมาถูกส่งตัวกลับไปยังจีน

9-12-2025

  ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) เมื่อวันจันทร์ การปราบปรามอาชญากรรมหลอกลวงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ร่วมกันระหว่างกองกำลังตำรวจของจีน เมียนมา และไทยได้ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยมีผู้ต้องสงสัยชาวจีนจำนวน 1,178 คน ที่เกี่ยวข้องกับแก็งค์คอลล์เซ็นเตอร์ในพื้นที่เมืองเมียววดีของเมียนมา ถูกส่งตัวกลับจีนภายใต้การคุ้มกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากทางการไทย

  เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน จีน กัมพูชา ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยปฏิบัติการร่วมในการต่อต้านการหลอกลวงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ ภายหลังการประชุม ประเทศต่าง ๆ ได้เสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมเปิดปฏิบัติการร่วมเพื่อกวาดล้างแคมป์ฉ้อโกงและจับกุมผู้ต้องสงสัย

  เพื่อตอบโต้การฉ้อโกงทางโทรคมนาคมที่มุ่งเป้าจีนในพื้นที่เมืองเมียววดี ตำรวจจากจีน เมียนมา และไทยได้ดำเนินปฏิบัติการร่วมอีกครั้ง โดยในระหว่างปฏิบัติการ เมียนมาได้รื้อถอนแคมป์ฉ้อโกงหลายแห่งและจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง การปฏิบัติการนี้ถือเป็นผลลัพธ์สำคัญอีกประการหนึ่งของการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของการประชุมรัฐมนตรี 6 ประเทศในการต่อสู้กับการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและออนไลน์

  ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากมณฑลเจียงซี เดินทางไปยังอำเภอแม่สอด ประเทศไทย เพื่อใช้เที่ยวบินเช่าเหมาลำรับตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชุด ๆ กลับจีน โดยได้รับความร่วมมือจากฝ่ายไทย ขณะเดียวกัน ตำรวจเจียงซีก็กำลังสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้อง ตามรายงานของ CCTV

  ตามสถิติ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการร่วมระหว่างจีน-เมียนมา-ไทย ในการส่งผู้ต้องสงสัยจากพื้นที่เมียววดีในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ มีผู้ต้องสงสัยชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมมากกว่า 6,600 คน ถูกส่งตัวกลับจีนภายใต้การคุ้มกัน ซึ่งเป็นการเตือนอย่างหนักแน่นต่อขบวนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมในต่างประเทศ ตามรายงานของ CCTV

  เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะรายหนึ่งกล่าวว่า การปฏิบัติการร่วมหลายประเทศเพื่อต่อต้านการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ข้ามชาติกำลังดำเนินต่อไป ทางการจีนจะเดินหน้าต่อยอดความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศด้วยความมุ่งมั่นและความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อรื้อถอนเครือข่ายอาชญากรรม จับกุมผู้ต้องสงสัย และปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตามรายงาน

ที่มา Global Times