.
Thailand
Nvidia สามารถขายชิป AI ขั้นสูงรุ่น H200 ให้จีนได้ — แต่ปักกิ่งจะต้องการหรือไม่?
10-12-2025
Nvidia ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐให้ขายชิป AI ขั้นสูงรุ่น H200 ให้แก่จีนได้ แต่คำถามคือ ปักกิ่งต้องการมันหรือจะอนุญาตให้บริษัทในประเทศซื้อหรือไม่ ขณะนี้บริษัทสามารถจัดส่งชิป H200 ให้แก่ “ลูกค้าที่ได้รับอนุญาต” ได้ โดยมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะได้รับส่วนแบ่ง 25% ของยอดขายเหล่านั้น ก่อนหน้านี้ Nvidia ถูกสั่งห้ามขายเซมิคอนดักเตอร์ใด ๆ ให้จีนแทบทั้งหมด แต่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทพยายามกลับมาขายชิปรุ่น H20 ซึ่งเป็นรุ่นที่ด้อยกว่าซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามกฎควบคุมการส่งออก
มีรายงานว่าปักกิ่งได้สั่งห้ามบริษัทท้องถิ่นซื้อชิปรุ่น H20 ทำให้Nvidiaยาไม่ได้ยอดขายจำนวนมากตามคาดในจีน หลังการผ่อนคลายข้อห้าม หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวนิรนามว่า จีนจะ “จำกัดการเข้าถึง” ชิป H200
หากดูจากสิ่งที่เจนเซน หวง ซีอีโอของNvidiaกล่าวว่าตลอดปีที่ผ่านมา รวมถึงการดำเนินการของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีจีนและรัฐบาลปักกิ่ง คุณอาจเห็นสัญญาณว่าการยกเลิกคำสั่งห้ามครั้งนี้อาจดำเนินไปในทิศทางใด
เหตุผลที่จีนอาจต่อต้านชิป H200
ชิป H200 เป็นหนึ่งในชิปขั้นสูงที่สุดของNvidiaสำหรับการฝึกและประมวลผล AI แต่ปัจจุบันจีนกำลังผลักดันอย่างหนักเพื่อเลิกพึ่งพาเทคโนโลยีอเมริกัน และเร่งพัฒนาชิปภายในประเทศสำหรับงาน AI
“แม้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเปิดประตูให้รายได้จากสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง แต่รถไฟทางยุทธศาสตร์ได้นำหน้าไปไกลแล้ว” นีล ชาห์ หุ้นส่วนของ Counterpoint Research กล่าวกับ CNBC เมื่อวันอังคาร
หวงกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ด้าน AI ของหัวเว่ย “อาจมีความสามารถเทียบเคียง” กับชิป H200 ของNvidia
อาลีบาบาและไป่ตู้ รวมถึงสตาร์ทอัพจีนรายอื่น ๆ ก็เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์แข่งขันกับNvidiaเช่นกัน
หัวเว่ยกำลังเร่งขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ AI ตระกูล Ascend และใช้คลัสเตอร์ชิปขนาดใหญ่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับของNvidia
หวงบอกกับ CNBC ในเดือนมิถุนายนว่า หากNvidiaถูกห้ามขายสินค้าในจีนอย่างถาวร หัวเว่ยก็จะสามารถรองรับความต้องการด้านชิปของประเทศได้ทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน อาลีบาบา เทนเซ็นต์ และไป่ตู้ ได้ใช้ชิปของNvidia ที่กักตุนก่อนการแบน รวมท้ังเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ เพื่อพัฒนาโมเดลที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น
ที่มา CNBC
© Copyright 2020, All Rights Reserved