.
‘รัฐบาล’ โต้สื่อนอก ไทยไม่หยุดยิงคืนนี้ ลั่น ‘กองทัพ’ ลุยฟาด ‘กัมพูชา’ ต่อ
10-12-2025
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่มีสื่อต่างประเทศรายงานว่า ไทยตอบรับข้อเสนอของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เกี่ยวกับการหยุดยิงกับกัมพูชาในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่สอดคล้องกับจุดยืนที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยได้แสดงไว้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้ตอบรับหรือหารือในลักษณะข้อตกลงหยุดยิงใดๆ กับฝ่ายมาเลเซีย ทั้งยังยืนยันจุดยืนตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่อาจหยุดปฏิบัติการได้ และกองทัพไทยต้องดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยในพื้นที่ชายแดน
"ตามที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ได้กล่าวชัดเจนว่า ไทยยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อเจรจาจากกัมพูชา และรัฐบาลยังคงดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นต่อการรักษาเสถียรภาพชายแดน พร้อมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงข้อมูลต่อเอกอัครราชทูตทั่วโลก และยืนยันข้อเท็จจริงบนเวทีสหประชาชาติแล้วว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเหตุปะทะ พร้อมย้ำว่าการสื่อสารของรัฐบาลไทยตั้งอยู่บนข้อมูลจริง ไม่มีการปรุงแต่ง ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น ไม่หลงเชื่อข้อมูลคลาดเคลื่อนจากต่างประเทศ ซึ่งอาจสร้างความสับสนในช่วงสถานการณ์อ่อนไหว
ทภ.2 เผย วันเดียว กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ไป 125 ครั้ง กว่า 5,000 ลูก โจมตีไทย ดับ 4 เจ็บ 68 นาย ฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต 61 นาย เจ็บยังประเมินไม่ได้
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูช โดยสถานการณ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 17.00 น. ของวันนี้ ทหารกัมพูชาโจมตีฝ่ายเราอย่างหนัก การสู้รบ ขยายวงกว้างและมีความรุนแรงด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ประมาณ 125 ครั้ง กระสุนลูกจรวด 5,000 นัด โดรนพลีชีพหรือโดรน FPV จำนวน 33 พื้นที่ ใส่ฐานและที่มั่นของฝ่ายเราในหลายแนวรบ โดยเฉพาะในพื้นที่ ช่องอานม้า และช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี, เถียงตาม็อก จังหวัดศรีสะเกษ และช่องคนา ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายเราตอบโต้ด้วยอาวุธอย่างได้สัดส่วน
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อยู่ตลอดแนวการวางกำลัง จากผลการปะทะกันอย่างหนักตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายเราได้สูญเสียนักรบกล้าสละชีพเพื่อพิทักษ์ชาติไปจำนวน 4 นาย บาดเจ็บรวม 68 นาย ฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต 61 นาย บาดเจ็บยังประเมินไม่ได้
กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง กอ.รมน. เข้มเฝ้าระวัง “โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ” ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสเพื่อความปลอดภัยของประเทศ
พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการให้ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด(ฝ่ายทหาร) ทุกจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุริทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง “โดรนสอดแนม-โดนนพลีชีพ” ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
โดยเลขาธิการ กอ.รมน. เน้นย้ำ “สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนมีความละเอียดอ่อนและมีแนวโน้มที่อาจถูกแสวงประโยชน์จากเทคโนโลยีโดรน ทั้งในลักษณะการสอดแนม การลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงการดัดแปลงโดรนเพื่อเป็นอุปกรณ์โจมตี ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ หน่วยงานด้านความมั่นคงจึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและตอบโต้สถานการณ์อย่างรอบด้าน
ดังนั้น กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้
1. หากพบเห็นโดรนต้องสงสัย บินผิดปกติหรือบินในพื้นที่หวงห้ามโดยไม่มีเหตุอันควร โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐในพื้นที่ทันที
2. หากพบโดรนตกหล่น วัตถุต้องสงสัย หรือชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นส่วนประกอบของโดรน ห้ามเก็บกู้ สัมผัส หรือเคลื่อนย้ายด้วยตนเอง เพราะอาจมีความเสี่ยง เช่น วัตถุระเบิด ไฟฟ้าลัดวงจร หรือสารเคมีอันตราย
3. การกระทำที่สามารถทำได้โดยปลอดภัย คือ การบันทึกภาพหรือจำตำแหน่งพิกัด เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ
4. สามารถแจ้งเบาะแสหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ผ่าน สายด่วนความมั่นคง 1374 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
กอ.รมน. ขอยืนยันว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการใช้อาวุธบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหน่วยงานภาครัฐจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ ติดตาม และป้องกันเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลขาธิการ กอ.รมน. เน้นย้ำ หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกระดับยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
กอ.รมน. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและร่วมเป็นกำลังสำคัญในการดูแลความมั่นคงของชาติเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยที่เรารักด้วยดีตลอดมา และจะแน่วแน่ด้วยอุดมการณ์นี้ตลอดไป
ที่มา AGENCIES
------------------------------
(เนื้อหาข่าวเพิ่มเติม) วันนี้(9 ธ.ค.) จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ไทยและกัมพูชา จะเจรจาหยุดยิงนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 19.20 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul เป็นภาษาอังกฤษว่า Thailand’s direction remains status quo. No ceasefire. ซึ่งหมายความว่า ทิศทางของประเทศไทยจะยังคงเป็นไปตามเดิม ยังไม่หยุดยิง
IMCT News