ยุคใหม่ของเงินยูโร  ECB เร่งเดินหน้า Digital Euro ยกระดับความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของยุโรป  ปี 2026 คือจุดชี้ขาด

10-12-2025

   คณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ความพร้อมในการออก Digital Euro ภายในปี 2029 โดยต้องอาศัยการอนุมัติกฎหมายที่จำเป็นภายในปี 2026 ขณะที่ขั้นตอนเตรียมการและการทดลองนำร่องอาจเริ่มได้ตั้งแต่กลางปี 2027

   ระบบการชำระเงินที่ชาวยุโรปพึ่งพาอาศัย ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้า เงินเหรียญ ธนบัตร หรือบัตรชำระเงิน ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดมา นวัตกรรมในประวัติศาสตร์ทำให้ระบบเหล่านี้มีความซับซ้อน มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่สกุลเงินของเราต้องปรับตัวตาม ยุโรป (Europe) จึงต้องการ Digital Euro เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

   ในปัจจุบัน เงินยูโร (Euro) ที่เป็นเงินสดนั้นมีอยู่ในรูปแบบทางกายภาพเท่านั้น ได้แก่ ธนบัตรและเหรียญที่เราถืออยู่ในกระเป๋าสตางค์ ในฐานะที่เป็นรูปธรรมที่สุดของสกุลเงินเดียวของเรา เงินสดจึงเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกัน ชาวยุโรปทราบดีว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาเงินสดได้ เนื่องจากได้รับการยอมรับทั่วทั้งเขตยูโร ใช้งานง่าย และครอบคลุมทุกกลุ่มคน นอกจากนี้ยังปกป้องความเป็นส่วนตัว และเป็นเงินที่ออกโดยสถาบันสาธารณะ คือธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB)

   อย่างไรก็ตาม ชาวยุโรปจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะชำระเงินแบบดิจิทัลในร้านค้า หรือซื้อผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ดังนั้น เราจึงต้องการรูปแบบเงินสดดิจิทัลเพื่อมาเสริมธนบัตรและเหรียญที่เราคุ้นเคย โดย Digital Euro ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนผ่านนี้

กรอบกฎหมายและการทำงานควบคู่กับเงินสด

วัตถุประสงค์ดังกล่าวถูกระบุไว้ใน แพ็กเกจสกุลเงินเดียว (Single Currency Package) ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ในปี 2023 โดยมีข้อเสนอสองฉบับที่กำลังอยู่ในระหว่างการอภิปรายโดยสภานิติบัญญัติยุโรป

ข้อเสนอแรกมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลและธุรกิจจะยังคงสามารถเข้าถึงและชำระเงินด้วยธนบัตรและเหรียญยูโรได้ทั่วทั้งเขตยูโร ควบคู่กันไป ECB กำลังพัฒนาธนบัตรยูโรยุคใหม่ด้วยการออกแบบใหม่ เพื่อให้มีความน่าดึงดูด เชื่อมโยงได้ง่าย และครอบคลุมสำหรับชาวยุโรปทุกคน ขณะที่ยังคงความปลอดภัยและยั่งยืนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยสรุปคือ เหรียญและธนบัตรยูโรจะยังคงอยู่ ชาวยุโรปจะมีทางเลือกในการชำระเงินด้วยธนบัตรและเหรียญยูโร หรือด้วย Digital Euro ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริม (complement) ไม่ใช่แทนที่ (replace) เงินสด

ข้อเสนอที่สองกำหนดกรอบการทำงานสำหรับ Digital Euro ซึ่งจะรับประกันว่าเงินยูโรดิจิทัลจะใช้งานได้ฟรี เรียบง่าย และครอบคลุม สามารถใช้สำหรับการชำระเงินดิจิทัลใด ๆ ทั่วทั้งเขตยูโร และจะรักษามาตรฐานการปกป้องความเป็นส่วนตัวสูงสุดเทียบเท่ากับเงินสด นอกจากนี้ยังจะทำงานได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ รองรับการชำระเงินดิจิทัลบนเว็บไซต์ ตลอดจนการทำธุรกรรมที่ทำได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

Digital Euro กับความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์

นอกจากนี้ Digital Euro ควรถูกมองในบริบทที่กว้างขึ้น นั่นคือความจำเป็นในการปรับปรุง ความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ (strategic autonomy) ของยุโรป ปัจจุบันภูมิทัศน์การชำระเงินของเราถูกครอบงำโดยผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ของยุโรป (non-European providers) ซึ่งยุโรปขาดโซลูชันดิจิทัลของตนเอง ที่ได้รับการยอมรับสำหรับการชำระเงินดิจิทัลใด ๆ ทั่วทั้งเขตยูโร เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการใช้เงินสดที่ลดลง

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้ทำให้ยุโรปต้องพึ่งพาบริษัทต่างชาติในโลกที่แบ่งขั้วและแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ การยอมมอบการควบคุมทางเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) ให้แก่ผู้อื่นอย่างมาก ขัดขวางความสามารถของยุโรปในการดำเนินการอย่างอิสระในเวทีโลกอย่างลึกซึ้ง และก่อให้เกิดภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความยืดหยุ่นและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเรา นี่คือเหตุผลที่เราต้องดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาภายนอกที่อาจเป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพในการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับค่านิยมและผลประโยชน์ของเราเอง

Digital Euro จะไม่แข่งขันกับวิธีการชำระเงินภาคเอกชน แต่จะเสริมการทำงานร่วมกัน ทำให้โซลูชันการชำระเงินภาคเอกชนของยุโรปสามารถขยายขนาด ขยายขอบเขตการเข้าถึง และคุณสมบัติที่นำเสนอได้ง่ายขึ้น

ปี 2026: ปีแห่งการตัดสินใจสำคัญ

ปี 2026 จะเป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับโครงการ Digital Euro ในการประชุมสุดยอดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้นำประเทศในเขตยูโรต่างแสดงความยินดีกับความคืบหน้าล่าสุด พวกเขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งดำเนินการด้านกฎหมายให้เสร็จสิ้น และเร่งขั้นตอนการเตรียมการอื่น ๆ ECB กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการออก Digital Euro ที่อาจเกิดขึ้นภายในปี 2029 โดยมีสมมติฐานว่าสภานิติบัญญัติยุโรปจะสามารถอนุมัติกฎระเบียบที่จำเป็นได้ในปีหน้า

การเตรียมการเหล่านี้จะรวมถึงการทดลองนำร่อง (pilot exercise) ซึ่งวางแผนจะเริ่มต้นในกลางปี 2027

เงินยูโรได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของยุโรป และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพของเราในโลก ในปี 2026 เขตยูโรจะต้อนรับสมาชิกคนที่ 21 คือ บัลแกเรีย (Bulgaria) สกุลเงินที่จะขับเคลื่อนความมั่งคั่งของ 21 ประเทศในเขตยูโรจึงต้องยอมรับเทคโนโลยีของศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มที่

Digital Euro คือแนวคิดที่มาถึงเวลาแล้ว มันไม่ได้เป็นเพียงก้าวล่าสุดของการวิวัฒนาการของเงินของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของเรา และการใช้ประโยชน์สูงสุดจากยุคดิจิทัล

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.ecb.europa.eu/press/blog/date/2025/html/ecb.blog20251209~9ba130ff20.en.html