จีนเตรียมโชว์ศักยภาพ 'ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคเวอร์ชั่นใหม่ รุ่นยิงจากอากาศยาน' ในพิธีสวนสนามวันชัยชนะ

3-9-2025

   SCMP รายงานว่า สถานีโทรทัศน์กลางของจีน (CCTV) ได้เผยถึงสัญญาณว่าอาจมีการเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นปรับปรุงใหม่ 2 ชนิด ได้แก่ ขีปนาวุธ YJ-21 และ DF-17 ซึ่งมาพร้อมกับขีดความสามารถในการเจาะทะลุการป้องกันที่เพิ่มขึ้น ในพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ จีนมีกำหนดจัดพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในวันพุธ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง และคาดว่าจะมีการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ

  หนึ่งในจุดที่น่าจับตามองคือขีปนาวุธ YJ-21 รุ่นยิงจากอากาศยาน ซึ่งเดิมทีเป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ใช้ยิงจากเรือรบ ซึ่งได้รับฉายาว่า "นักฆ่าเรือบรรทุกเครื่องบิน" ในรายการโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายเหว่ย ตงซู (Wei Dongxu) นักวิเคราะห์ด้านการทหาร ได้กล่าวกับ CCTV ว่า ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถยิงจากเครื่องบินทิ้งระเบิดได้ "จากนอกเขตป้องกันภัยทางอากาศของศัตรู, เจาะทะลุระบบสกัดกั้น และทำลายเป้าหมายก่อนที่จะกลับฐานได้อย่างรวดเร็ว" นายเหว่ย (Wei) ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงจะถูกปรับให้เข้ากับภารกิจและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความหลากหลายในสถานการณ์การสู้รบ” โดยอธิบายว่าการพัฒนาดังกล่าวบ่งชี้ถึงขีปนาวุธตระกูลใหม่ที่มีทั้งรุ่นที่ยิงจากภาคพื้นดิน, ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งนักสังเกตการณ์ด้านการทหารรู้จักในชื่อ KD-21 ซึ่งเป็นขีปนาวุธ YJ-21 รุ่นยิงจากอากาศยาน และเคยถูกพบเห็นครั้งแรกในปี 2018 จากภาพถ่ายดาวเทียมที่บ่งชี้ถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจีนจะยังไม่ยืนยันว่าขีปนาวุธดังกล่าวเข้าประจำการแล้วหรือไม่ แต่รัฐบาลปักกิ่ง (Beijing) ได้กล่าวว่าอาวุธทั้งหมดที่จะนำมาแสดงในพิธีสวนสนามวันพุธได้เข้าประจำการแล้ว

  ขีปนาวุธ KD-21 คาดว่าจะถูกบรรทุกโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ H-6N โดยมีพิสัยทำการ 3,000 กิโลเมตร และมีความสามารถในการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์หรือหัวรบแบบปกติได้ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะเดินทางด้วยความเร็วระหว่าง Mach 4 ถึง Mach 6 อีกด้วย ทั้งนี้ อักษร YJ ที่นำหน้าชื่อขีปนาวุธบ่งชี้ถึงบทบาทในการต่อต้านเรือ ทำให้เกิดฉายา "นักฆ่าเรือบรรทุกเครื่องบิน" ภาพถ่ายที่ถูกบันทึกในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้วบ่งชี้ว่า อาจมีการเปิดตัวขีปนาวุธ YJ-series ใหม่สี่ชนิดในพิธีสวนสนาม

   นอกจากนี้ การเปิดตัวที่เป็นไปได้อีกอย่างในวันพุธนี้คือขีปนาวุธ DF-17 ซึ่งเป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ใช้ยิงจากภาคพื้นดิน โดยนายเหว่ย (Wei) กล่าวในรายการ CCTV ว่าขีปนาวุธ DF-17 จะยังคงมีการพัฒนาต่อไป “ส่วนร่อนอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น และนอกเหนือจากพิสัยที่ขยายออกไปแล้ว ยังอาจบรรทุกหัวรบลวงได้อีกด้วย” นายเหว่ย (Wei) กล่าว “สิ่งเหล่านี้จะทำให้ระบบเตือนภัยล่วงหน้าและระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูเกิดความสับสน ทำให้แยกแยะเป้าหมายจริงได้ยากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเจาะทะลุได้อย่างมาก” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยการออกแบบที่เหมาะสม วิถีการบินของมันจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น” “การเสริมสร้างขีดความสามารถของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงจะเกี่ยวข้องกับการใช้บูสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และวิธีการเจาะทะลุที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงการปรับวิถีการบิน, การใช้หัวรบลวง และอาจรวมถึงการใช้ยานยนต์กลับสู่ชั้นบรรยากาศ (re-entry vehicles) หลายตัว”

  ขีปนาวุธ DF-17 เดินทางด้วยวิถีการบินที่ไม่เป็นมาตรฐาน โดยหลังจากถูกส่งขึ้นสู่ขอบชั้นบรรยากาศโลก ส่วนร่อนของมันสามารถ "กระดอน" เหมือนก้อนหิน หรือใช้เส้นทางการบินแบบกระเด้ง “สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเจาะทะลุการป้องกัน แต่ยังขยายพิสัยการทำการด้วย” นายเหว่ย (Wei) กล่าว “ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคือมันบินได้ไกล, สามารถเจาะทะลุการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและรุนแรง”

  ที่ระดับความสูง 20 ถึง 100 กิโลเมตร วิถีการร่อนของขีปนาวุธ DF-17 จะอยู่ต่ำกว่าพิสัยการสกัดกั้นของระบบป้องกันขีปนาวุธส่วนใหญ่ที่มักจะทำงานที่ระดับความสูงเหนือ 100 กิโลเมตร ซึ่งทำให้การสกัดกั้นเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง นับตั้งแต่เปิดตัวในพิธีสวนสนามของจีนในปี 2019 ขีปนาวุธ DF-17 ก็ไม่ค่อยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาและรุ่นต่าง ๆ ของมันอย่างต่อเนื่อง

  เมื่อต้นเดือนนี้ CCTV ได้เผยแพร่ภาพการยิงขีปนาวุธ DF-17 เป็นครั้งแรก โดยยิงจากรถบรรทุกเคลื่อนที่ (road-mobile transporter-erector-launcher) บนทางหลวง ซึ่งสื่อของรัฐเรียกว่าเป็นการ “ยิงแบบไม่ยึดติดกับที่” (unanchored launch) ซึ่งหมายความว่าสามารถยิงได้โดยไม่ต้องใช้ไซโลหรือฐานที่ตั้งตายตัว ต่างจากขีปนาวุธเคลื่อนที่บนถนนอื่น ๆ ที่มักต้องใช้การเตรียมการที่ยาวนาน และต้องมีการทำให้ยานยนต์มั่นคงก่อนที่จะยิง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนที่

  ความยืดหยุ่นของขีปนาวุธ DF-17 ทำให้มันสามารถกระจายตัวไปตามเครือข่ายถนนของจีนโดยปลอมตัวเป็นยานพาหนะพลเรือน และสามารถยิงได้ภายในไม่กี่นาทีหลังจากได้รับคำสั่ง ด้วยพิสัยการปฏิบัติการ 1,800 ถึง 2,500 กิโลเมตร ทำให้ขีปนาวุธ DF-17 สามารถโจมตีได้ทั่ว "ห่วงโซ่เกาะแรก" และบางส่วนของ "ห่วงโซ่เกาะที่สอง" ซึ่งห่วงโซ่เกาะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การสกัดกั้นของสหรัฐฯ เพื่อจำกัดการเข้าถึงมหาสมุทรแปซิฟิกของกองทัพจีน ซึ่งเป็นแนวทางที่สหรัฐฯ พยายามใช้ประโยชน์สูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้น พิสัยการยิงนี้ทำให้ฐานทัพหลักของสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ตกอยู่ในระยะการโจมตี

  การบินด้วยความเร็วเหนือเสียง หมายถึงความเร็วที่สูงกว่า Mach 5 หรืออย่างน้อย 6,174 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งด้วยความเร็วดังกล่าว การเดินทางจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้จะใช้เวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากจีนแล้ว สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ก็ได้ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากในการวิจัยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเช่นกัน รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) ที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคมระบุว่า จีน “มีคลังแสงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงชั้นนำของโลก” ในทางตรงกันข้าม โครงการ AGM-183A ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวหลายครั้ง และโครงการพัฒนาระบบร่อนความเร็วเหนือเสียงร่วมของกองทัพบกและกองทัพเรือ (Common Hypersonic Glide Body) ก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อยจนถึงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อ BBC รายงานว่าสหรัฐฯ กำลัง “ไล่ตาม” จีนและรัสเซียในแง่ของขีดความสามารถในการปฏิบัติการขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/news/china/military/article/3323962/chinese-state-media-hints-new-variants-hypersonic-missile-parade?module=hp_section_china&pgtype=homepage

 Photo: Handout