.

“ฝันร้ายอันยาวนานและเจ็บปวดได้สิ้นสุดลงแล้ว” ทรัมป์กล่าว ในวันประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลาง
14-10-2025
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุติสงครามในตะวันออกกลาง เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าสงครามในตะวันออกกลางได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะเดินทางเยือนภูมิภาคดังกล่าวเพื่อสรุปข้อตกลงสันติภาพสำหรับฉนวนกาซา
ทรัมป์เดินทางถึงเมืองเทลอาวีฟในเช้าวันจันทร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส หลังจากถูกควบคุมตัวไว้นานกว่าสองปี
เมื่อเดินทางถึงรัฐสภาอิสราเอล ซึ่งเขามีกำหนดจะแถลงต่อสมาชิกสภา ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มฮามาสจะวางอาวุธ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ และเมื่อถูกถามว่าสงครามจบแล้วหรือไม่ เขาตอบว่า “ใช่”
ภายในรัฐสภา เขาได้รับการต้อนรับด้วยเสียงแตร แสดงความยินดีด้วยการยืนปรบมือ และเสียงเชียร์ ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์โดยระบุว่า “ฝันร้ายอันยาวนานและเจ็บปวด” ได้สิ้นสุดลงแล้วสำหรับทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ โดยเขากล่าวว่า สหรัฐฯ ขอยืนเคียงข้างพันธมิตรด้วยคำปฏิญาณสองข้อว่า: “จะไม่ลืม และจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก”
ในบรรยากาศที่แสดงถึงความปรองดอง ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าการหยุดยิงครั้งนี้เป็น “ช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นสำหรับอิสราเอลและตะวันออกกลาง” และชี้ว่าอิสราเอลได้ชัยชนะทุกอย่างที่สามารถทำได้ “ด้วยอาวุธ” ตอนนี้ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนความพยายามเหล่านั้นให้กลายเป็นสันติภาพและความรุ่งเรือง
ประธานาธิบดีเรียกร้องข้อตกลงสันติภาพกับอิหร่าน
ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกับอิหร่าน และกล่าวว่า มือแห่งมิตรภาพและความร่วมมือ “เปิดอยู่เสมอ แม้แต่อิหร่าน ซึ่งรัฐบาลของพวกเขาได้ก่อให้เกิดความตายอย่างมากในตะวันออกกลาง”
“ผมบอกพวกคุณเลยว่า พวกเขาอยากทำข้อตกลง” ทรัมป์กล่าว พร้อมเสริมว่า “เราพร้อมเมื่อพวกคุณพร้อม”
อิหร่านถือเป็นผู้สนับสนุนหลักจากต่างประเทศของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันอีกหลายร้อยคน
การตอบโต้ของอิสราเอลและสงครามที่ตามมา ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 67,000 คน รวมถึงพลเรือนจำนวนมาก ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา ทั้งฉนวนกาซาเองก็ถูกทำลายไปเกือบทั้งหมด โดยมีอาคารจำนวนมากพังราบเป็นซากปรักหักพัง
“พวกคุณชนะแล้ว และตอนนี้พวกคุณสามารถสร้าง และทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้” ทรัมป์กล่าว พร้อมกระตุ้นให้อิสราเอลมุ่งเน้นและยึดมั่นในความพยายามสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน
ทรัมป์เน้นย้ำประเด็นการฟื้นฟูและสร้างใหม่
เขายังกล่าวย้ำหลายครั้งถึงประเด็นการฟื้นฟูและการสร้างใหม่ โดยบอกกับรัฐสภาอิสราเอลว่า “ชาวกาซาต้องมุ่งเน้นอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูพื้นฐานของความมั่นคง ความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และการพัฒนาเศรษฐกิจ” ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือในภารกิจนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวยกย่องนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และผู้นำทางทหาร ตลอดจนประเทศอาหรับที่มีบทบาทในการช่วยเจรจาหยุดยิง นอกจากนี้ เขายังชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและที่ปรึกษาของตนเอง รวมถึงทูตประจำตะวันออกกลาง สตีฟ วิตคอฟฟ์, รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ, ลูกเขย จาเร็ด คุชเนอร์ และพีท เฮกเซธ
ตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 20 คน คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในวันจันทร์นี้ พร้อมกับตัวประกันเพิ่มเติมอีก 28 คน — ซึ่งในจำนวนนั้น 26 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว และอีก 2 คนยังไม่ทราบสถานะที่แน่ชัด
เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน อิสราเอลจะปล่อยนักโทษและผู้ถูกควบคุมตัวชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คน
ทรัมป์เตรียมกล่าวต่อรัฐสภาอิสราเอล ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดระหว่างประเทศที่อียิปต์
ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดจะกล่าวต่อรัฐสภาอิสราเอลหลังจากพบกับครอบครัวของตัวประกัน จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศครั้งสำคัญร่วมกับผู้นำโลกประมาณ 20 คน เพื่อสรุปข้อตกลงยุติสงครามในฉนวนกาซา
เฟสแรกของข้อตกลงสันติภาพสำหรับฉนวนกาซาที่ทรัมป์เสนอ และการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล ถูกยกย่องว่าเป็นพัฒนาการด้านมนุษยธรรมและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย
“มันแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ หากใช้บทบาทที่ยังคงทรงอิทธิพลในเวทีโลกอย่างเหมาะสม” โฮลเกอร์ ชมีดิง (Holger Schmieding) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแบเรนแบร์ก (Berenberg Bank) กล่าวเมื่อวันจันทร์
“ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดทั่วโลกน่าจะยังคงจำกัดอยู่ แม้ว่า หากกลุ่มฮูตีหยุดขัดขวางการขนส่งทางทะเลผ่านทะเลแดง ก็อาจทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลงเล็กน้อย หากความตึงเครียดในตะวันออกกลางคลี่คลายลงไปอีก ผลกระทบในระยะยาวต่อโลกอาจชัดเจนยิ่งขึ้น — แต่ก็ยังเป็นคำว่า ‘ถ้า’ ที่ใหญ่มากอยู่ดี” ชมีดิงกล่าว
ที่มา CNBC
-------------------------
กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ “ฮามาส” ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง
14-10-2025
เมื่อวันจันทร์ กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ฮามาส ได้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่รอดชีวิต 7 คนแรก ซึ่งนับเป็นขั้นตอนแรกของข้อตกลงหยุดยิงที่มีสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ย
ตามแถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ตัวประกันถูกส่งมอบให้กับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ภายในฉนวนกาซา การปล่อยตัวรอบถัดไปคาดว่าจะมีผู้รอดชีวิตอีก 13 คน และตัวประกันเพิ่มเติมอีก 28 คน — ในจำนวนนี้ 26 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว และอีก 2 คนยังไม่ทราบสถานะที่แน่ชัด
ภายใต้ข้อตกลงนี้ อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษและผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คนภายในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอิรัก โมฮัมเหม็ด ชิอา อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันอาทิตย์ โดยกล่าวว่าทรัมป์ “จริงจังกับการบรรลุสันติภาพ” ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญในอียิปต์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี
ประเทศอียิปต์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำโลกมากกว่า 20 คน รวมถึงทรัมป์ ที่เมืองตากอากาศริมทะเลแดง ชาร์ม เอล-ชีค ในวันจันทร์นี้ โดยคาดว่าการหารือจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน และการฟื้นฟูฉนวนกาซาที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
อัล-ซูดานีชื่นชมความริเริ่มของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้หาทางออกอย่างถาวรต่อปัญหาปาเลสไตน์
นายกรัฐมนตรีอิรัก โมฮัมเหม็ด ชิอา อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) กล่าวว่าความริเริ่มของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ “สำคัญ” และแสดงความหวังว่าการหยุดยิงครั้งนี้จะ “ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาอย่างรากฐาน”
“ปัญหาปาเลสไตน์คือรากเหง้าของปัญหาในตะวันออกกลาง” เขากล่าวกับแดน เมอร์ฟี ผู้สื่อข่าวจาก CNBC “ถึงเวลาแล้วที่เราจะหาทางออกผ่านการเจรจา และการเคารพสถาบันและข้อตกลงระหว่างประเทศ”
คำแถลงของเขามีขึ้นหลังความขัดแย้งที่ยืดเยือมาสองปี ซึ่งเริ่มต้นจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันหลายร้อยคน การตอบโต้ของอิสราเอลส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 67,000 คน รวมถึงพลเรือนหลายพันคน ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา
อัล-ซูดานีกล่าวว่า อิรักสนับสนุน “ทุกทางออกโดยสันติที่นำไปสู่การยุติสงครามครั้งนี้” พร้อมเตือนว่าพลเรือนในกาซาไม่เพียงต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิด แต่ยังประสบกับ “ความหิวกระหาย ความกระหาย และการขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานที่สุดของการดำรงชีวิต”
“อิรักเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากที่สุด” เขากล่าวเสริม “เราจึงไวต่อปัญหาเหล่านี้ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับประชาคมมนุษยชาติ”
แผนการหลังสงคราม
เมื่อถูกถามถึงรายงานที่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์ จะมีบทบาทในการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านหลังสงครามในกาซา อัล-ซูดานีกล่าวว่า แบลร์คือ “มิตรที่ดีของชาวอิรัก” และยินดีต้อนรับบทบาทของเขาในการช่วยเหลือ
อัล-ซูดานีเน้นความจำเป็นของผู้ช่วยระหว่างประเทศในการจัดการช่วงเปลี่ยนผ่าน พร้อมย้ำจุดยืนอิรักต่ออิสราเอล
“ตามแผน มีความจำเป็นต้องมีผู้บริหารระหว่างประเทศหรือบุคคลที่จะช่วยในการจัดการกระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้” เขากล่าว โดยยกเหตุผลถึงความเร่งด่วนในการฟื้นฟูบริการสาธารณะและการส่งมอบความช่วยเหลือ
เมื่อถูกถามว่าอิรักอาจจะสร้างความสัมพันธ์ปกติกับอิสราเอลหรือไม่ อัล-ซูดานีระบุว่านโยบายของกรุงแบกแดดถูกกำหนดโดยกฎหมายและ “จุดยืนที่มีหลักการ”
“รัฐบาลของเราดำเนินงานภายใต้ระบบรัฐสภาและต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่รัฐสภาพิจารณาและออกมา” เขากล่าว
เขายังเสริมว่า “อิสราเอลน่าเสียดายที่ได้ก่ออาชญากรรมหลายครั้งต่อชาวปาเลสไตน์ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ชาวปาเลสไตน์ในวันนี้สมควรได้รับความจริงที่ดีกว่าและอนาคตที่ดีกว่า”
จุดความตึงเครียดในภูมิภาค
เมื่อกล่าวถึงความตึงเครียดในภูมิภาคที่กว้างขึ้น อัล-ซูดานีเตือนว่าความพยายามสันติภาพไม่ควรจำกัดอยู่แค่เพียงกาซา
“ซีเรียแน่นอนว่าเป็นปัญหาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอิรัก และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติของทุกประเทศในภูมิภาค” เขากล่าว
เขายังวิจารณ์การบุกรุกของอิสราเอลในดินแดนซีเรียว่า “ไม่ถูกต้องและยอมรับไม่ได้” โดยระบุว่าการกระทำเหล่านี้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และ “สร้างความไม่มั่นคงในประเทศที่ทุกคนต่างหวังเห็นฟื้นฟู”
นายกรัฐมนตรีอิรักเตือนภัยกลุ่มไอเอสในซีเรียยังคงเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีอิรักกล่าวว่า กลุ่มไอเอสที่ยังหลงเหลืออยู่ในซีเรีย ยังคงปฏิบัติการอยู่ โดยได้อาวุธจากกองทัพซีเรียชุดเก่า
“พวกเขาเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่อทุกประเทศในภูมิภาค” เขากล่าว
“การอ่อนแอของรัฐบาลในดามัสกัสจะเปิดโอกาสให้กลุ่มหัวรุนแรงเข้ายึดครองและคุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาคที่มีความเปราะบางนี้”
ที่มา CNBC