มาเลเซีย เร่งเจรจาข้อตกลงชิปกับ บราซิล-อินเดีย

มาเลเซีย เร่งเจรจาข้อตกลงชิปกับ บราซิล-อินเดีย ชี้กลุ่ม BRICS คือทางออกใหม่
14-10-2025
SCMP รายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียกำลังแสวงหาข้อตกลงด้านชิป (Chip deals) กับประเทศบราซิล (Brazil) และอินเดีย (India) พร้อมส่งคำเตือนที่ชัดเจนว่าตลาดสหรัฐอเมริกา (US) อาจสูญเสียไปจากผู้ส่งออกของประเทศ เนื่องจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ (US protectionism) เริ่มส่งผลกระทบอย่างหนักต่อห่วงโซ่อปทานทั่วโลก
ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีกำลังแสวงหาตลาดใหม่ที่เป็นมิตรมากขึ้น การรวมกลุ่ม BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล (Brazil), รัสเซีย (Russia), อินเดีย (India), จีน (China), และแอฟริกาใต้ (South Africa) ได้กลายมาเป็นจุดสนใจ โดยปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 40% ของผลผลิตทั่วโลก (Global output)
กลุ่ม BRICS เองก็กำลังแสวงหาพันธมิตรทางการค้าใหม่เช่นเดียวกับอาเซียน (ASEAN) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราภาษีของสหรัฐฯ (US) เนื่องจากภูมิทัศน์การค้าระดับโลกกำลังค้นหาเส้นทางใหม่ในการดำเนินงาน ท่ามกลางนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ (US protectionism) ที่กำลังกัดกินห่วงโซ่อุปทาน
นายเลียว ชิน ตง (Liew Chin Tong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้ามาเลเซีย (Malaysia’s deputy trade minister) ได้กล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ว่า "เราต้องยอมรับความจริงที่ว่า การพึ่งพาสหรัฐฯ (US) ในฐานะจุดหมายปลายทางการส่งออกของเราอาจสิ้นสุดลงในสักวัน"
"ปัจจุบันสหรัฐฯ (US) ไม่ต้องการนำเข้าจากประเทศของเราและชาติสมาชิก ASEAN มากนัก ดังนั้นเราจึงต้องการตลาดใหม่ และพันธมิตรใหม่" นายเลียว (Liew) กล่าวเพิ่มเติม โดยอ้างถึงสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสมาชิก 10 ประเทศ
นายเลียว (Liew) เปิดเผยว่า มาเลเซีย (Malaysia) เตรียมที่จะลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation) กับบราซิล (Brazil) เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ และกำลังดำเนินการข้อตกลงที่คล้ายคลึงกันกับอินเดีย (India) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในขณะที่หลายประเทศกำลังมองหาช่องทางเข้าสู่กลุ่มประเทศผู้ผลิตชิปขั้นสูงที่นำโดยสหรัฐฯ (US) ความร่วมมือใหม่นี้อาจรวมถึงการแบ่งปันความเชี่ยวชาญของมาเลเซีย (Malaysia) ในด้านการประกอบ, การทดสอบ, และการบรรจุเซมิคอนดักเตอร์ (intermediate semiconductor assembly, testing and packaging) รวมถึงการใช้ประโยชน์จากแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเชิงลึกของอินเดีย (India) ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น การออกแบบวงจรรวม (integrated circuit design)
คำกล่าวของนายเลียว (Liew) เกี่ยวกับอนาคตของการค้ากับสหรัฐฯ (US) ถือเป็นคำเตือนที่รุนแรงที่สุดจากมาเลเซีย (Malaysia) ซึ่งเกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์ก่อนที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะเดินทางเยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN) ซึ่งจะเป็นการพบปะกับผู้นำกลุ่มฯ เป็นครั้งแรกในวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขา
เป็นที่คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะชะลอตัวลง เนื่องจากอัตราภาษีระหว่าง 10% ถึง 40% เริ่มส่งผลกระทบต่อการส่งออกและสร้างความเสียหายต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยปัจจุบัน มาเลเซีย (Malaysia) เป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อันดับหกของโลกในภาคการประกอบ, การทดสอบ, และการบรรจุ ซึ่งชิปคิดเป็นประมาณ 60% ของการส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ประจำปีของประเทศ
"นี่คือทิศทางที่กำหนดโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของกลุ่ม BRICS และก่อนการเยือนทวีปแอฟริกาตามแผนของเขา" นายเลียว (Liew) กล่าวถึง นายอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) ผู้นำมาเลเซีย (Malaysia)
ทั้งนี้ สหรัฐฯ (US) เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ ASEAN ในปี 2024 โดยรับสินค้าจากภูมิภาคนี้คิดเป็นมูลค่า 352.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (US Trade Representative’s office)
ขณะเดียวกัน การประชุมสุดยอดนี้จะต้อนรับผู้นำจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ เช่น นายหลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีจีน (China), นายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย (India), นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ประธานาธิบดีบราซิล (Brazil) และ นายไซริล รามาโฟซา (Cyril Ramaphosa) ผู้นำแอฟริกาใต้ (South Africa) ในขณะที่ ASEAN มุ่งขยายรายชื่อพันธมิตรทางการค้าและพาณิชย์เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราภาษีต่อการส่งออกของตน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/week-asia/economics/article/3328801/malaysia-seeks-brazil-india-chip-deals-warns-us-market-may-be-lost?module=top_story&pgtype=homepage