Societe Generaleมองราคาทองคำอาจแตะ $5,000ภายในสิ้นปี 2026

14-10-2025

   ราคาทองคำพุ่งทะลุ $4,100 อาจแตะ $5,000 ภายในสิ้นปี 2026 ตามการคาดการณ์ของ Societe Generale ในช่วงบ่ายวันจันทร์ ราคาทองคำได้ซื้อขายอยู่ที่ระดับกว่า $4,100 ต่อออนซ์ หลังจากทะลุแนวต้านสำคัญที่ $4,000 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคาร Societe Generale ระบุว่า แม้จะใช้การคาดการณ์แบบอนุรักษ์นิยม ความต้องการลงทุนในทองคำระยะกลางก็ยังบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ $5,000 ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีหน้า

ในรายงานวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ นักวิเคราะห์จากธนาคารยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสรายนี้ระบุว่า ราคาทองคำดูเหมือนจะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีก $1,000 ในเวลาไม่นาน

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำแตะ $4,042 ต่อออนซ์ ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ในเชิงบวกของเราที่ $4,318 ต่อออนซ์ สำหรับไตรมาส 4 ปี 2026 อยู่เพียง $276” พวกเขาเขียนไว้ “ในเช้าวันนี้ ราคาขยับขึ้นไปอยู่ที่ $4,072 ต่อออนซ์ ด้วยกระแสเงินทุนไหลเข้า ETF ที่ยังแข็งแกร่ง และการซื้อทองคำจากธนาคารกลางที่คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไป เราจึงรู้สึกมั่นใจและมีความจำเป็นต้องปรับเป้าราคาทองคำให้สูงขึ้น”

“เราคาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปแตะ $5,000 ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2026 เนื่องจากอัตราการไหลของเงินทุนสูงกว่าที่เราคาดไว้ในตอนแรก” พวกเขาระบุ “แม้เราจะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการลงทุนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ แต่สิ่งที่เราเห็นคือ กระแสเงินทุนไหลเข้า ETF ที่แข็งแกร่งอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้จริง ๆ ทำไมกระแสการลงทุนนี้จึงเกิดขึ้นตอนนี้? เราเคยระบุไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า กระแสเงินทุนไหลเข้า ETF มีความสัมพันธ์อย่างมากกับระดับความไม่แน่นอน นับตั้งแต่ชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 และเรามองว่า นี่คือปัจจัยสำคัญในการทำความเข้าใจแนวโน้มราคาทองคำในขณะนี้”

   นักวิเคราะห์จาก Societe Generale เตือนว่า ดัชนีความไม่แน่นอนรายเดือนล่าสุดของ FRED ประจำเดือนกันยายน ยังไม่สะท้อนถึงมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีนที่ประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม

“ดัชนีนี้ยังไม่สามารถสะท้อนเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% กับสินค้าจีนทั้งหมด และในเวลาไล่เลี่ยกันก็แสดงท่าทีเปิดกว้างที่จะเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า” พวกเขาระบุ

“อย่างไรก็ตาม หากมองข้ามเหตุการณ์ล่าสุดเหล่านี้ สิ่งที่เราสังเกตได้คือ ดัชนีความไม่แน่นอนโดยรวม (รวมถึงด้านการค้า) ของจีนลดลง 80 และ 100 จุดตามลำดับในเดือนกันยายน ขณะที่การถือครองทองคำในรูปแบบ ETF ของจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 189 ตัน เป็นประมาณ 193 ตัน”

ความไม่แน่นอนพุ่งสูง หนุนเงินไหลเข้า ETF ทองคำทั่วโลก

   นักวิเคราะห์ระบุว่า “ขณะเดียวกัน เมื่อใช้ดัชนีความไม่แน่นอนรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่เราเลือกใช้ ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาที่จีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก และการตอบโต้ของทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระดับความไม่แน่นอนพุ่งขึ้นเป็น 354 จุด — เพิ่มขึ้น 18 จุด ในสัปดาห์เดียว และเพิ่มขึ้น 44 จุด เมื่อเทียบรายเดือน (ดูกราฟด้านขวาบน)”

  พวกเขายังกล่าวว่า ดัชนีระดับ 354 นี้ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 5 เดือนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ถึง 3 เท่า

   จากสถานการณ์เช่นนี้ นักวิเคราะห์ชี้ว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การลงทุนในกองทุน ETF ทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้น 23 ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นถึง 100 ตัน ภายในเดือนเดียว

“สิ่งที่สำคัญคือ ทีมเศรษฐศาสตร์จีนของเราระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีใหม่ตามที่ประกาศไว้นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นต่ำกว่า 30% แต่แม้เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม ดูเหมือนว่าก็เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดกระแสเงินมหาศาลไหลเข้าสู่ ETF ทองคำ” พวกเขาเขียน

“เรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีสถานการณ์ใดที่ทำให้ระดับความไม่แน่นอนกลับไปสู่ระดับปกติก่อนยุคทรัมป์ภายในช่วงเวลาที่เราคาดการณ์ ดังนั้นกระแสเงินทุนใน ETF จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการประเมินราคาทองคำของเรา”

ที่มา Kitco News