.

'การค้าเสรีสิ้นสุดลงแล้ว' อดีตรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศ พร้อมเรียกร้องยุโรปใช้ยุทธศาสตร์ 'ชาตินิยม' ตอบโต้สหรัฐฯ และจีน
11-10-2025
SCMP รายงานว่า เอริก ลอมบาร์ด (Eric Lombard) อดีตรัฐมนตรีการคลังฝรั่งเศส กล่าวในงานสัมมนาด้านการแข่งขันทางอุตสาหกรรมที่จัดโดย Politico ที่กรุงปารีสว่า ยุคของการค้าเสรีในโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยต้นเหตุหลักคือการดำเนินนโยบายการค้าที่ยุติธรรมจากทั้งสหรัฐฯ และจีนที่บิดเบือนกติกาองค์การการค้าโลก (WTO) ลอมบาร์ดย้ำว่า "ยุคใหม่ของโลกนี้โหดร้ายกว่าเดิมมาก หากยุโรปไม่เร่งปกป้องตัวเอง ภายใต้ภาวะดัมพ์สินค้าจากจีน (Chinese dumping) และกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ (American tariffs) เราอาจหมดโอกาสอยู่รอด
นายลอมบาร์ด (Lombard) ได้กล่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านความสามารถในการแข่งขัน (competitiveness summit) ที่จัดโดย Politico ณ กรุงปารีส (Paris) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “การค้าเสรีสิ้นสุดลงแล้ว (Free trade is over), มันตายแล้ว”
เขาเรียกร้องให้ฝรั่งเศส (France) และยุโรป “ตื่นขึ้น” เพื่อเผชิญกับข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐฯ (US) และจีน (China) กำลังใช้มาตรการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเบี่ยงเบนไปจากหลักการค้าเสรีและกฎเกณฑ์ของ World Trade Organization (WTO)
“โลกใหม่นี้มีความโหดร้ายมากยิ่งขึ้น” นายลอมบาร์ด (Lombard) กล่าว “หากยุโรปไม่ปกป้องตัวเอง ระหว่างการทุ่มตลาดของจีน (Chinese dumping) และมาตรการภาษีของอเมริกา (American tariffs) เราจะหายไป (disappear)”
อดีตหัวหน้าฝ่ายการเงินของฝรั่งเศส (France) ย้ำว่า ยุโรปจำเป็นต้องดำเนินตาม “วิสัยทัศน์แบบชาตินิยม (nationalistic vision)” มากขึ้นในการรับมือกับสหรัฐฯ (US) และจีน (China) และต้องเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกับมหาอำนาจทั้งสอง
นายลอมบาร์ด (Lombard) แสดงความยินดีกับแผนการของ European Commission ที่จะนำมาตรการจำกัดการนำเข้าเหล็กที่เข้มงวดขึ้นมาใช้ โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์บางประเภทที่จีน (China) เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดไปยังยุโรป (Europe) พร้อมเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการที่คล้ายกันนี้ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเคมีของยุโรป (European chemical industry)
นายลอมบาร์ด (Lombard) กล่าวว่า “เราจะต้องทำกับจีน (China) ในสิ่งที่พวกเขาเคยทำกับเรามาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นั่นคือการบังคับให้พวกเขามาลงทุนที่นี่และถ่ายโอนเทคโนโลยี”
นอกจากนี้ นายลอมบาร์ด (Lombard) ยังเห็นว่า สหภาพยุโรป (EU) ควรพร้อมที่จะเสี่ยงในการตอบโต้มาตรการทางการค้าที่ถูกริเริ่มโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) โดยระบุว่าเป็น “หน้าที่” ของยุโรป (Europe) ที่จะต้องยุติพฤติกรรมดังกล่าว
ฝรั่งเศส (France) เป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันมายาวนานต่อยุทธวิธีทางการค้าของ EU ที่ต้องใช้กำลังมากขึ้น และมีรายงานว่าปารีส (Paris) แสดงความไม่เชื่อมั่นอย่างมากต่อข้อตกลงการค้าระหว่าง EU-US ที่บรรลุข้อสรุปไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ในระหว่างการเจรจาการค้าในระยะแรก EU เคยขู่ว่าจะใช้เครื่องมือต่อต้านการบีบบังคับ (Anti-Coercion Instrument) ซึ่งมักถูกเรียกกันว่า “ปืนบาซูก้าทางการค้า (trade bazooka)” โดยเครื่องมือนี้จะช่วยให้สหภาพฯ สามารถสกัดกั้นการเข้าถึงตลาดสินค้า, บริการ, และการลงทุนของอเมริกัน (American) ในยุโรปได้อย่างรวดเร็ว
แต่ท้ายที่สุด “ปืนบาซูก้า” ดังกล่าวก็ไม่เคยถูกยิงออกมา และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเยน (Ursula von der Leyen) ประธาน European Commission ได้เดินทางไปสกอตแลนด์ (Scotland) เพื่อพบกับ ทรัมป์ (Trump) และสรุปข้อตกลงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในฝรั่งเศส (France) ว่าเป็นข้อตกลงที่ ไม่สมดุลและยอมจำนนต่อวอชิงตัน (Washington)
นายโลรองต์ แซ็งต์-มาร์แต็ง (Laurent Saint-Martin) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าฝรั่งเศส (France) ในขณะนั้น ได้กล่าวกับสถานีวิทยุ France Inter ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เข้าใจเพียงแต่เรื่องของกำลัง (force) เท่านั้น ผมคิดว่าเราควรตอบสนองได้ดีกว่านี้ ด้วยการแสดงศักยภาพในการตอบโต้ของเราให้มากขึ้น และข้อตกลงนี้อาจจะแตกต่างออกไป”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3328509/us-and-china-have-killed-free-trade-former-french-minister-says?module=top_story&pgtype=section