จีน– EU และอีกกว่า 100 ชาติ เดินหน้าร่วมตั้งเป้าสู้วิกฤตโลกร้อน ขณะที่สหรัฐฯ เดินนโยบายต้านกระแส หวั่นแรงต้านจากอุตฯ ขนาดใหญ่

25-10-2025

   Asia Times รายงานว่า ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้าต้านกระแสควบคุมสภาพภูมิอากาศ สร้างแรงกดดันให้ประเทศต่าง ๆ ลดเป้าหมายด้านโลกร้อน กลุ่มมหาอำนาจทั่วโลกยังคงผลักดันเป้าหมายใหม่ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศในยุโรปต่างยืนยันความมุ่งมั่นผ่านการส่งข้อผูกพันใหม่ต่อองค์การสหประชาชาติ

   ในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกอย่างหมู่เกาะมาร์แชล (Marshall Islands) ปัญหาน้ำทะเลสูงกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นสร้างวิกฤตหนักต่อการดำรงชีวิต ประธานาธิบดีฮิลด้า ไฮน์ (Hilda Heine) แห่งมาร์แชลระบุในเวทีประชุมยูเอ็นว่า “คลื่นพายุและน้ำเค็มท่วมพื้นที่เกษตร” ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร แหล่งน้ำและสุขภาพ.  รายงานประเมินว่าหากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังดำเนินต่อเนื่อง หมู่เกาะที่ตั้งต่ำเช่นนี้อาจไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ภายในไม่กี่สิบปี.

  ขณะที่อุณหภูมิโลกยังพุ่งสูงในปี 2024 สถิติก๊าซเรือนกระจกยังอยู่ที่จุดสูงสุดในประวัติการณ์ แม้จะมีข้อตกลงสากลและเวทีแก้ไขโลกร้อนที่ดำเนินมาไม่น้อยกว่า 3 ทศวรรษ โลกยังไม่อยู่บนเส้นทางที่จะจำกัดอุณหภูมิไว้ที่ 1.5°C ตามเป้าหมายปารีส

  ส่วนการประชุมสุดยอดระดับโลกหลังจากทรัมป์แสดงท่าทีไม่ร่วมมือ ประเทศกว่า 100 ชาติได้นำเสนอเป้าหมายใหม่ในการลดการปล่อยก๊าซ ชูบทบาทจีนซึ่งบรรลุเป้าหมายพลังงานสะอาดก่อนกำหนด 5 ปี พร้อมตั้งเป้าใหม่ ลดการปล่อยแก๊สสุทธิ 7-10% จากจุดสูงสุดภายในปี 2035 เพิ่มกำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์–ลม และพัฒนาการปลูกป่าขนาดใหญ่.

  สหภาพยุโรปส่งหนังสือแสดงเจตจำนงลดการปล่อยก๊าซ 66-72% ภายในปี 2035 เมื่อเทียบกับปี 1990 และเดินหน้าจัดเก็บค่าคาร์บอนข้ามแดนกับสินค้านำเข้า ขณะเดียวกันสภาสหภาพยุโรปยังมีแนวโน้มผ่อนปรนมาตรการบางประการ หลังแรงกดดันภาคเอกชน

  สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ต่างประกาศเป้าหมายสุทธิศูนย์ (net-zero) ภายในปี 2050 แม้ในออสเตรเลียรัฐควีนส์แลนด์ยังยืดอายุโรงไฟฟ้าถ่านหินถึงยุค 2030s–2040s แต่ยังยืนยันเป้า net-zero และเดินหน้าโครงการพลังงานสะอาดควบคู่กัน

   นอร์เวย์และบราซิลก็ขยับเป้าลดก๊าซให้สอดคล้องกับเป้าหมายโลกร้อน โดยบราซิลนำเสนอโมเดล “Globally Determined Contribution” ในฐานะเจ้าภาพ COP30 เพื่อดึงชาติต่าง ๆ สร้างเป้าหมายรวมทั้งโลก หมายถึงกลไกใหม่ที่ช่วยรวมพลังนานาชาติและทลายข้อจำกัดแบบประเทศกำหนดเองของยุคปารีส

   ขณะที่บางประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เช่น กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย อาร์เจนตินา รวมถึงอินเดีย เม็กซิโก แอฟริกาใต้ กลับยังไม่ได้เสนอเป้าความร่วมมือใหม่ หรือแม้แต่ถอยกลับจากข้อเสนอเดิมเพราะความกดดันด้านเศรษฐกิจและการเมือง

   แม้แรงผลักดันจะมีและความคืบหน้าเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค ทว่าสถานการณ์จริงยังอยู่ห่างจากเป้าหมายจำกัดโลกร้อนไว้ใต้ 2°C และไกลล้านไมล์จาก “ชั้นความมั่นคง” ที่หมู่เกาะแปซิฟิกต้องการ ภายใต้บทบาทนำของรัฐบาลบางกลุ่มและแรงต้านจากประเทศเจ้าของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โลกจึงอยู่ระหว่างการต่อสู้ครั้งใหม่ เพื่อฟื้นฟูกลไกและยกระดับพันธะสัญญาร่วมมือในเวที COP ที่จะมาถึง.

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/10/despite-trumps-words-china-and-others-set-higher-climate-goals/