ประธาน Nvidia เผย AI อยู่ใน ‘วงจรเชิงบวก’

1-11-2025

  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia นายเจนเซน หวาง กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้าสู่ “วงจรเชิงบวก” (virtuous cycle) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่อง

  ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ การประชุมสุดยอด CEO ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย–แปซิฟิก (APEC CEO Summit) ที่ประเทศเกาหลีใต้ หวางระบุว่าการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างมากของโมเดล AI นำไปสู่การลงทุนในเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งจะกลับมาช่วยปรับปรุงโมเดล AI ให้ดียิ่งขึ้นอีก

“ตอนนี้เราได้เข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า วงจนเชิงบวกแล้ว” เขากล่าวบนเวทีในงาน โดยสวมชุดสูทแทนที่จะเป็นแจ็กเก็ตหนังสีดำตามปกติ

“AI ดีขึ้น มีคนใช้งานมากขึ้น การใช้งานมากขึ้นก่อให้เกิดกำไรมากขึ้น สร้างโรงงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เราสามารถสร้าง AI ที่ดียิ่งขึ้น และคนก็ใช้งานมากขึ้น วัฏจักรเสมือนของ AI ถูกออกแบบแล้ว และนี่คือเหตุผลที่คุณเห็นการใช้จ่ายด้านทุน (capex) ของโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว”

   คำกล่าวของเขามาในช่วงที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ AI และให้บริการแก่ผู้ใช้งาน

   ปีนี้ถือเป็นปีสำคัญของการใช้จ่ายด้าน AI โดยบริษัท Meta, Amazon, Alphabet และ Microsoft ประกาศแผนลงทุนรวมกันมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเทคโนโลยี AI และการสร้างศูนย์ข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะดำเนินต่อไปในปี 2026 เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เตรียมเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านทุนอีกครั้งตามรายงานผลประกอบการล่าสุด

   นายแดน ไอเวส (Dan Ives) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีทั่วโลกของ Wedbush Securities ระบุว่า Nvidia เป็น “รากฐานของปฏิวัติ AI” ในความคิดเห็นกับ CNBC หลังจากที่หวางกล่าวสุนทรพจน์บนเวที เขาอธิบาย วัฏจักรอันดีงามของ AI (AI virtuous cycle) ว่า: “ยิ่งความต้องการมากขึ้น ยิ่งมีการสร้างองค์ประกอบพื้นฐานของ AI มากขึ้น และความต้องการก็จะสร้างความต้องการและการลงทุนด้านทุน (capex) มากขึ้นตามมา”

   หวางเน้นว่า ความสามารถในการทำกำไร เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนด้านทุนใน AI ในปัจจุบัน “เมื่อสิ่งใดสามารถทำกำไรได้ คุณก็ต้องการผลิตสิ่งนั้นมากขึ้น เช่นเดียวกับการผลิตชิป เวเฟอร์ และ DRAM หากการผลิตชิปเหล่านี้ทำกำไรได้ คุณก็ต้องการสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นเพื่อผลิตชิปมากขึ้น” เขากล่าวเพิ่มเติม

ยุคใหม่ของการประมวลผล

   นี่คือจุดเริ่มต้นของ ยุคใหม่ของการประมวลผล (new era of computing) เพราะด้วย AI “ทุกชั้นของระบบคอมพิวเตอร์กำลังถูกเปลี่ยนแปลงอย่างพื้นฐาน” หวางกล่าวบนเวที เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยุคใหม่นี้เป็นเวลา 10 ปี เขาเสริม

“AI ทำงานบน GPU [หน่วยประมวลผลกราฟิก] ขณะที่ซอฟต์แวร์ที่เขียนด้วยมือทำงานบน CPU [หน่วยประมวลผลกลาง] ทั้งหมดของซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ความต้องการด้านพลังงาน ชิป โครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ โมเดล AI และแอปพลิเคชันด้านบน ทุกชั้นของระบบคอมพิวเตอร์ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างพื้นฐาน” หวางกล่าว

“ลองคิดดูว่า อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์แทบไม่เปลี่ยนแปลงมาเป็นเวลา 60 ปี แต่ตอนนี้ ด้วย AI และการประมวลผลแบบเร่งความเร็ว ทุกชั้นของระบบคอมพิวเตอร์กำลังถูกเปลี่ยนแปลง คอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่เราสร้างมาในอดีต — มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ — ต้องถูกปรับเปลี่ยนและย้ายไปสู่แพลตฟอร์มการประมวลผลใหม่” เขากล่าวเสริม

   Nvidia ซึ่งกลายเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศความร่วมมือกับ Samsung ยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย Samsung วางแผนที่จะซื้อและติดตั้งคลัสเตอร์ GPU ของ Nvidia จำนวน 50,000 ตัว เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์มือถือและหุ่นยนต์

   หวางวาดภาพอนาคตที่ ปัญญาประดิษฐ์สามารถ “ทำงานได้จริง” ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือให้ใช้งานเท่านั้น โดยเน้นถึงการเติบโตของโรงงานผลิตอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่ง CEO ของ Nvidia คาดว่า AI จะสามารถปรับโฉมอุตสาหกรรมทั่วโลกมูลค่ากว่า 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา CNBC