Ray Dalio  ชี้ ทองคำคือ 'เงินทุนพื้นฐาน' ไม่ใช่สินทรัพย์เก็งกำไร แนะถือทองมากขึ้นยามสงคราม–ค่าเงินผันผวน

1-11-2025

   เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates บริษัทเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้ความเห็นว่า ทองคำ (Gold) ควรถูกมองเป็น "เงินทุนพื้นฐาน (fundamental money)" มากกว่าเป็นสินทรัพย์เก็งกำไร และนักลงทุนควรเพิ่มสัดส่วนการถือครองไว้ที่ 5-15% ของพอร์ตโฟลิโอ และควรเพิ่มให้มากกว่านั้นในช่วงที่มีสงครามหรือการลดค่าเงินกระดาษ (fiat devaluation)

ทองคำ (Gold) ในฐานะเงินทุนที่มั่นคงที่สุด

ดาลิโอ (Dalio) ระบุผ่านโพสต์บน LinkedIn ว่า "เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ว่า ทองคำคือเงิน และเป็นเงินที่มีความเสี่ยงต่อการถูกลดค่าและ/หรือการยึดทรัพย์น้อยที่สุด"

เขาอธิบายว่า ตลอดประวัติศาสตร์ เงินทั้งหมดมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ:

สกุลเงินที่ผูกติด/มีสินทรัพย์หนุนหลัง (linked/hard-asset-backed currencies): หมายถึงเงินที่ผูกกับทองคำหรือโลหะที่มีจำกัดและเป็นที่ยอมรับทั่วโลกอย่างเงิน (Silver)

สกุลเงินที่ไม่อิงกับสิ่งใด (fiat currencies): หมายถึงสกุลเงินที่ไม่ได้มีสิ่งใดหนุนหลัง จึงไม่มีขีดจำกัดในการพิมพ์ออกมา

ดาลิโอ (Dalio) ชี้ให้เห็นว่า ทุกครั้งที่ระบบการเงินที่ผูกติดกับทองคำมีหนี้สินหรือข้อผูกพันมากเกินไป ระบบจะพังทลายลง ผู้นำประเทศในอดีตมักจะเลือกระหว่าง:

ติดอยู่กับคำมั่น: ทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากเงินฝืด (Deflationary Depressions)

ยกเลิกคำมั่น (หลังปี 1913): ซึ่งอนุญาตให้ธนาคารกลางสร้างเงินและเครดิตจำนวนมาก ส่งผลให้ค่าเงินถูกลดลง อัตราเงินเฟ้อ (Inflation) สูงขึ้น และราคาทองคำสูงขึ้น

เนื่องจากสกุลเงินทั้งหมดเป็นสกุลเงินที่ไม่อิงกับสิ่งใดมาตั้งแต่ปี 1971 บทเรียนของการล่มสลายของระบบเงินกระดาษจึงมีความเกี่ยวข้องกับยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยในกรณีเช่นนี้ ธนาคารกลางจะสร้างเงินและเครดิตจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อและราคาทองคำที่สูงขึ้นเสมอ

ความได้เปรียบของทองคำ (Gold) เหนือสกุลเงินกระดาษ

   รักษากำลังซื้อ: ทองคำทำหน้าที่ได้ดีในฐานะเงินทางเลือกที่ต้านทานการลดค่า โดยมีประวัติการรักษากำลังซื้อได้ดีที่สุดในช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน นี่คือเหตุผลที่ทองคำเป็น สินทรัพย์สำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสองที่ถือโดยธนาคารกลาง 

   ความเสี่ยงในการยึดทรัพย์ต่ำ: ทองคำมีความเสี่ยงในการถูกยึดทรัพย์ (confiscation risks) ต่ำกว่าเงินและสินทรัพย์อื่น ๆ เนื่องจากไม่ขึ้นอยู่กับการที่ผู้อื่นต้องชำระเงิน และเก็บรักษาไว้ในความครอบครองที่ปลอดภัยได้

   ปลอดภัยจากสงครามเศรษฐกิจ: ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่มีวิกฤตการเงิน/หนี้ และ/หรือสงครามเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ (เช่น การคว่ำบาตร) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการยึดทรัพย์

   "ในช่วงเวลาที่มีวิกฤตการเงิน/หนี้ และ/หรือสงครามที่เพิ่มความเสี่ยงในการยึดทรัพย์ ราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นมาก (หรือพูดให้ถูกต้องกว่าคือ เป็นเงินที่ไม่ลดค่าลง)" ดาลิโอ (Dalio) กล่าว

คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

   ดาลิโอ (Dalio) มองทองคำเป็นส่วนหนึ่งของการจัดสรรสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ (strategic asset allocation) มากกว่าการตัดสินใจจับจังหวะตลาด (market-timing)

สัดส่วนเชิงกลยุทธ์: เขาแนะนำให้ทุกคนเริ่มต้นด้วยการจัดสรรสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม โดยการถือครองทองคำไว้ระหว่าง 5% ถึง 15% ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อื่น ๆ ในพอร์ตและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้

สัดส่วนเชิงกลวิธี (Tactical Overweight): ควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำในช่วงเวลาที่ระบบการเงินล่มสลายและมีความเสี่ยงสูงต่อการยึดทรัพย์และสงครามเศรษฐกิจ/การเงิน

สัดส่วนเชิงกลวิธี (Tactical Underweight): ควรลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงเวลาอื่น ๆ เนื่องจากในระยะยาว ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ (คล้ายกับเงินสด) เพราะไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีผลิตภาพ (productive asset)

ดาลิโอ (Dalio) สรุปว่า นักลงทุนควรเปลี่ยนความคิดและมองว่า ทองคำเป็นเงินทุนพื้นฐาน ที่ควรมีไว้ในพอร์ตอย่างน้อยบางส่วน ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ถือครองเลย

---

IMCT NEWS

ที่มา https://x.com/RayDalio/status/1983956902787661886