.
สะกิดบาดแผลประวัติศาสตร์ ข้าม 'เส้นแดง' นักวิเคราะห์ชี้ความไม่พอใจของจีน ต่อคำพูดของ นายกฯ ญี่ปุ่น ที่ท้าทายหลักการจีนเดียวและอธิปไตยเหนือไต้หวัน
24-11-2025
Global Times รายงานว่า เป่ย ผิงเฟิง (Bei Pingfeng) ชี้ว่า ถ้อยแถลงที่ผิดพลาดของ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่น (Japanese Prime Minister) ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) ที่ระบุว่า 'เหตุการณ์ฉุกเฉินใน ไต้หวัน (Taiwan contingency)' อาจถือเป็น 'สถานการณ์คุกคามการอยู่รอด' (survival-threatening situation) ของ ญี่ปุ่น (Japan) ได้จุดชนวนความโกรธแค้นร่วมกันของชาว จีน (Chinese people) ในทันที ความเดือดดาลนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงออกทางอารมณ์ชั่วขณะ แต่เป็นปฏิกิริยาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อการละเมิดผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของชาติ ซึ่งมีรากฐานที่ลึกซึ้งและยาวนาน
รากฐานความโกรธแค้นจากความอัปยศอดสูทางประวัติศาสตร์
ความโกรธแค้นร่วมกันของชาว จีน (Chinese people) มีสาเหตุหลักจากความอัปยศอดสูทางประวัติศาสตร์ที่ฝังลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายที่ ญี่ปุ่น (Japan) ก่อไว้ภายใต้ สนธิสัญญาชิโมโนเซกิ (Treaty of Shimonoseki) ที่ลงนามหลังความพ่ายแพ้ของรัฐบาล ชิง (Qing) ของ จีน (China) ใน สงคราม จีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่หนึ่ง (First Sino-Japanese War) ในปี 1985 (ตามข้อมูลในเอกสารต้นฉบับ) ซึ่งนำไปสู่การยก ไต้หวัน (Taiwan) และ หมู่เกาะเผิงหู (Penghu Islands) ให้แก่ ญี่ปุ่น (Japan) และการปกครองอาณานิคมเป็นเวลา 50 ปี
ในช่วงเวลานั้น ญี่ปุ่น (Japan) ได้ดำเนินการกลืนชาติ (forced assimilation) ปล้นทรัพยากร และปราบปรามการต่อต้านอย่างรุนแรง ขณะที่ระหว่าง สงครามต่อต้านการรุกรานของ ญี่ปุ่น (Japanese Aggression) กองทัพจักรวรรดินิยม ญี่ปุ่น (Japanese militarism) ได้เหยียบย่ำทั่ว จีน (China) ก่ออาชญากรรมจนทำให้ประเทศพังทลาย
คำพูดและการกระทำของ ทาคาอิจิ (Takaichi) ถูกมองว่าเป็นการโรยเกลือลงบนบาดแผล และเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับชาว จีน (Chinese people) ที่ยังคงจดจำฉายา "คนป่วยแห่งเอเชีย" (Sick man of Asia) และความอัปยศในอดีต
การท้าทายหลักการ 'จีนเดียว' (one-China principle)
รายงานระบุว่า โดยพื้นฐานแล้ว คำพูดและการกระทำของ ทาคาอิจิ (Takaichi) เป็นความพยายามที่จะ แทรกแซงกิจการภายใน ของ จีน (China) และท้าทาย หลักการ จีน (China) เดียว (one-China principle) ซึ่งเป็นแกนหลักของผลประโยชน์ของชาติ การรวมชาติและการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นเจตจำนงร่วมกันของชาว จีน (Chinese people) กว่า 1.4 พันล้านคน ซึ่งไม่เคยสั่นคลอนตั้งแต่ จีน (China) เก่าที่อ่อนแอ สู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) ที่เข้มแข็งขึ้นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ สื่อบางสำนักยังรายงานว่า ทาคาอิจิ (Takaichi) วางแผนที่จะแก้ไข "หลักการไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์สามข้อ" (three non-nuclear principles) ฟื้นฟูยศทหารแบบเก่า และอนุญาตให้ อาวุธนิวเคลียร์ของ สหรัฐฯ (US nuclear weapons) ประจำการใน ญี่ปุ่น (Japan) ซึ่ง จีน (China) มองว่านี่เป็นสัญญาณของการฟื้นคืนชีพของ ลัทธิทหาร (militarism) ที่เป็นอันตรายในหมู่กองกำลังฝ่ายขวาของ ญี่ปุ่น (Japanese right-wing forces) และเป็นสิ่งที่ผู้รักสันติภาพทั่วโลกไม่ยอมรับ
คำเตือนถึงการตอบโต้ด้วย 'ปืนลูกซอง'
ชาว จีน (Chinese people) ย้ำว่า ศักดิ์ศรีของชาติไม่ได้มาจากการประนีประนอม แต่มาจากการต่อสู้อย่างกล้าหาญ จีน (China) ในวันนี้ไม่ใช่ชาติที่อ่อนแออีกต่อไป และยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งปกป้องศักดิ์ศรีและผลประโยชน์ของชาติอย่างหนักแน่นมากขึ้นเท่านั้น
รายงานดังกล่าวได้ส่งคำเตือนอย่างแข็งกร้าวว่า "เราต้อนรับมิตรด้วยไวน์ชั้นดี แต่สำหรับศัตรู เรามีปืนลูกซอง" การยั่วยุของ ทาคาอิจิ (Takaichi) ซึ่งละเมิดผลประโยชน์หลักของ จีน (China) ย่อมจะถูกตอบโต้ด้วยมาตรการที่แข็งแกร่งที่สุด และใครก็ตามที่กล้าข้าม เส้นแดงของ จีน (China's red line) และท้าทายอธิปไตย จะต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการป้องกันที่ไม่อาจเจาะทะลวงได้ของ กองทัพปลดปล่อยประชาชน (People's Liberation Army - PLA)
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.globaltimes.cn/page/202511/1348814.shtml