แผนสันติภาพ 28 ข้อของทรัมป์ และอีก 100 กับดัก อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับยูเครน?  จะเปลี่ยนสมดุลรัสเซีย–ตะวันตกอย่างไร?

27-11-2025

    RT รายงานเชิงวิเคราะห์ ถึงแผนสันติภาพยูเครน (Ukraine) 28 ข้อและ 100 กับดัก: อนาคตภายใต้ข้อเสนอของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า  ในช่วงเวลานี้ การคาดการณ์ถึงแนวโน้มของแผนสันติภาพยูเครน (Ukraine) ที่เสนอโดย โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ถือเป็นเรื่องที่อาจด่วนสรุปเกินไป เนื่องจากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงด้วยอัตราที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง ความรวดเร็วนี้สามารถนำไปสู่การผันผวนที่ไม่คาดคิดได้ โดยเหตุการณ์ความวุ่นวายรอบการประชุมสุดยอดที่ บูดาเปสต์ (Budapest) ซึ่งถูกเลื่อนออกไปยังคงอยู่ในความทรงจำ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันมีความแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

   เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นที่ สหรัฐฯ (US) ได้นำเสนอโครงร่างข้อเสนอที่แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ได้พิจารณาจุดยืนของ มอสโก (Moscow) ในประเด็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่า เครมลิน (Kremlin) จะไม่ยอมรับข้อเสนอ 28 ข้อนี้โดยง่าย เนื่องจากยังคงต้องการการชี้แจงและการปรับปรุง ซึ่งจะจำเป็นต้องมีกระบวนการเจรจาที่จริงจัง เพื่อให้แน่ใจว่าสนธิสัญญาสันติภาพในอนาคตจะไม่ประสบชะตากรรมเดียวกันกับข้อตกลง มินสก์-2 (Minsk-2) อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีหลายฉากทัศน์สำหรับกระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นบวก

ฉากทัศน์ที่ 1: การลงนามภายใต้แรงกดดัน (สันติภาพเบื้องต้น)

   ในฉากทัศน์ที่ง่ายที่สุด โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ขู่ที่จะตัดความช่วยเหลือต่อ เคียฟ (Kiev) ซึ่งบีบให้รัฐบาล เคียฟ (Kiev) ต้องลงนามในเอกสารตามที่เป็นอยู่ หลังจากนั้น เครมลิน (Kremlin) ก็ยอมรับข้อตกลงดังกล่าวเป็นแผนที่นำทาง อย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นเพียงก้าวแรกสู่สันติภาพเท่านั้น เนื่องจากข้อเสนอของ สหรัฐฯ (US) ยังคงมี “กับดัก” (pitfalls) อยู่มากมาย ซึ่งรวมถึงสถานะของ เคอร์ซอน (Kherson) และ ซาปอริซเซีย (Zaporozhye) วิธีการแก้ไขปัญหาด้านภาษาและศาสนา และอื่นๆ อีกมาก การเกิดวิกฤตเพียงหนึ่งหรือสองครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้ปฏิบัติการทางทหารกลับมาดำเนินการอย่างรุนแรงอีกครั้ง เพื่อให้แผนประสบความสำเร็จ จะต้องมีการจัดตั้งกลไกควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Vladimir Zelensky) ได้ขัดขวางมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ แผนจึงอาจตกรางได้ตลอดเวลา

ฉากทัศน์ที่ 2: การปฏิเสธของ เคียฟ (Kiev) และวิกฤตที่ควบคุมไม่ได้

   ฉากทัศน์ที่สองเกี่ยวข้องกับ เคียฟ (Kiev) ที่ปฏิเสธการอนุมัติแผนในรูปแบบดั้งเดิม โดยได้รับการสนับสนุนจากยุโรปตะวันตก (Western Europe) ยูเครน (Ukraine) อาจประกาศความไม่เต็มใจที่จะบรรจุสถานะความเป็นกลางของประเทศไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงการปฏิเสธที่จะยอมรับการเสียดินแดน ทัศนคติของ วอชิงตัน (Washington) ก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง โดย รัสเซีย (Russia) จะถูกเรียกร้องให้แสดงความยืดหยุ่น และการเจรจาก็จะล่มสลาย โดยที่ มอสโก (Moscow) จะถูกตำหนิว่าเป็นสาเหตุอีกครั้งในสายตาของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในกรณีนี้ สหรัฐฯ (US) จะละเว้นความรับผิดชอบ และหันไปเล่นเกมการยกระดับความขัดแย้ง ทำเนียบขาว (White House) จะกลับไปสู่ประเด็นของขีปนาวุธ Tomahawk และวิกฤตจะเข้าสู่ระยะที่ควบคุมไม่ได้ การเจรจาจะไม่อาจกลับมาได้ในเร็วๆ นี้ และจะต้องเริ่มต้นการเจรจาทั้งหมดจากศูนย์

ฉากทัศน์ที่ 3: รูปแบบการเจรจาที่ยืดเยื้อ (สมจริงที่สุด)

   ฉากทัศน์ที่สามและสมจริงที่สุดคือการที่คู่กรณีเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบการเจรจาที่ยืดเยื้อ โดยต่างฝ่ายต่างเสริมสร้างจุดยืนของตนไปพร้อมกัน เซเลนสกี (Zelensky) จะถ่วงเวลาในขณะที่พยายามเจรจาเพื่อประนีประนอมอย่างสิ้นหวัง ในขณะเดียวกัน มอสโก (Moscow) จะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้เพื่อรุกคืบกองกำลังเข้าไปในยูเครน (Ukraine) ลึกยิ่งขึ้น สหรัฐฯ (US) เชื่อว่าการเจรจาย่อมดีกว่าการไม่เจรจา และจะแก้ไขแผนอย่างอดทน ยุโรปตะวันตก (Western Europe) จะยอมรับกฎเกณฑ์ใหม่ด้วยความไม่เต็มใจ ผลลัพธ์คือ การปรากฏขึ้นของเอกสารฉบับใหม่ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

ฉากทัศน์ที่ 4: การล่มสลายทางการเมืองใน เคียฟ (Kiev)

   แน่นอนว่ายังมีทางเลือกที่สี่: วิกฤตการณ์ทางการเมืองปะทุขึ้นใน เคียฟ (Kiev) แนวหน้าพังทลาย และชาติตะวันตก (West) เพิกเฉยต่อการล่มสลายของโครงการ ยูเครน (Ukraine) เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ล่าสุด ฉากทัศน์นี้ดูสมจริงกว่าเมื่อหกเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม ทั้ง สหรัฐฯ (US) และยุโรปตะวันตก (Western Europe) ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับความสูญเสีย ยูเครน (Ukraine) ในวันนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ “ใหญ่เกินกว่าจะล้มเหลว” (too big to fail) ดังนั้น จึงยังไม่ควรคาดหวังความช่วยเหลือจาก ‘หงส์ดำ’ (black swans) ใดๆ ถึงเวลาแล้วสำหรับการเจรจาที่จริงจังและรอบคอบ ซึ่ง มอสโก (Moscow) มีความได้เปรียบที่ชัดเจน การบีบให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าสู่การทูต ซึ่งพวกเขาหลีกเลี่ยงมาเป็นเวลานาน จึงจะเป็นก้าวหนึ่งที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของสิ่งที่ รัสเซีย (Russia) เรียกว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" (special military operation)

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/russia/628451-peace-plan-28-points/