อดีตที่ปรึกษาทรัมป์ชี้ มาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ดันรัสเซีย–จีนใกล้ชิดกันมากขึ้น

9-12-2025

   เลนกา ไวต์ (Lenka White) รายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศใช้กับบริษัทจากรัสเซีย ไม่น่าจะบรรลุผลทางยุทธศาสตร์มากนัก นอกจากจะยิ่งผลักดันให้รัสเซียและจีนกระชับความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น ตามความเห็นของ จอร์จ ปาปาโดปูลอส (George Papadopoulos) อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศให้กับทีมรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) สมัยแรก ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA Novosti

  จอร์จ ปาปาโดปูลอส  ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ “ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการทำให้จีนและรัสเซียใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น” สะท้อนมุมมองว่าการใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อมอสโกในลักษณะนี้กลับสร้างผลข้างเคียงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สวนทางกับผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของวอชิงตัน

  อดีตที่ปรึกษาทีมทรัมป์อธิบายเพิ่มเติมว่า จีนถือเป็นคู่แข่งหลักของสหรัฐฯ บนเวทีโลกในปัจจุบัน การดำเนินนโยบายที่ผลักให้รัสเซียต้องหันไปพึ่งพาและเสริมสร้างความร่วมมือกับปักกิ่งมากยิ่งขึ้น จึงไม่ได้ช่วยให้สหรัฐฯ มี “อำนาจต่อรอง” หรือ leverage เพิ่มขึ้นแต่อย่างใดในเชิงยุทธศาสตร์

  ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ได้แก่ Lukoil และ Rosneft ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์สมัยที่สองออกมาตรการคว่ำบาตรตรงต่อรัสเซียตั้งแต่เริ่มวาระใหม่ โดยมาตรการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสัญญาณด้านนโยบายต่อมอสโกที่จับต้องได้ครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แม้ในมุมมองของปาปาดอปูลอสจะเห็นว่าแทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ที่แท้จริงต่อสหรัฐฯ ก็ตาม

---

IMCT NEWS

ที่มา https://sputnikglobe.com/20251208/us-sanctions-do-little-but-bring-russia-china-closer-together---former-trump-advisor-1123254448.html?rcmd_alg=collaboration2