.
จีนเดินเกมรุกลาตินอเมริกา–แคริบเบียน ประกาศมอบความช่วยเหลือ“ไร้เงื่อนไขทางการเมือง” หนุนบทบาท Global South ต่อต้าน “การกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว”
11-12-2025
SCMP รายงานว่า จีนประกาศมอบความช่วยเหลือลาตินอเมริกา–แคริบเบียนแบบไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง พร้อมเผยยุทธศาสตร์ใหม่มุ่งขยายอิทธิพลในภูมิภาคที่สหรัฐฯ กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด
รัฐบาลจีนได้เปิดเผยเอกสารยุทธศาสตร์นโยบายฉบับที่สามว่าด้วยความสัมพันธ์กับภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน โดยระบุว่า จีนจะให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศในภูมิภาคนี้ “โดยไม่ผูกพันเงื่อนไขทางการเมืองใด ๆ” พร้อมเดินหน้าผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงในฐานะประเทศสมาชิกของกลุ่ม Global South
เอกสารฉบับใหม่นี้เผยแพร่โดยสำนักข่าว ซินหัว (Xinhua) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีนับจากที่จีนออกเอกสารฉบับก่อนในปี 2016 โดยปักกิ่งระบุว่า โลกกำลังอยู่ในช่วง “การเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ” ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในระบบโลก
เอกสารระบุว่า “การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกยังขาดแรงขับเคลื่อน ความขัดแย้งในภูมิภาคเกิดขึ้นถี่ระหว่างที่การกระทำฝ่ายเดียวและการกลั่นแกล้งทางการเมือง (unilateral bullying) บ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มนุษยชาติกำลังเผชิญความท้าทายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”
ปักกิ่งย้ำว่า ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาและสมาชิกของ Global South จีนมี “ชะตากรรมร่วม” กับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ รวมถึงประเทศในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน
เอกสารฉบับล่าสุดยังคงครอบคลุมมิติความร่วมมือเช่นเดียวกับฉบับก่อนหน้า ได้แก่ การค้า การเงิน พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม โดยจีนตั้งเป้าส่งเสริมการค้าสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและใช้เทคโนโลยีเข้มข้น พร้อมสนับสนุนให้บริษัทจีนเข้าไปลงทุนในภูมิภาคนี้ รวมทั้ง “จัดการความขัดแย้งทางการค้าอย่างเหมาะสม”
แม้จะอยู่ห่างไกลทางภูมิศาสตร์ แต่จีนชี้ว่าความสัมพันธ์กับลาตินอเมริกาและแคริบเบียน “ลึกซึ้งและหยั่งรากในหัวใจของประชาชนมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ” ในมิติการเกษตร จีนซึ่งกำลังเผชิญสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐฯ ระบุว่าจะพัฒนากลไกความร่วมมือทางเกษตรกับภูมิภาคให้นำสมัยมากขึ้น กระตุ้นให้ภาคเอกชนสองฝ่าย “มีบทบาทเชิงรุก” ในการค้าผลผลิตทางการเกษตร
จีนยังเตรียมขยายความร่วมมือในสาขาเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อวกาศ และพลังงานใหม่ รวมถึงการวิจัยด้านอวกาศ มหาสมุทร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้เอกสารจะไม่ระบุชื่อสหรัฐฯ โดยตรง แต่ได้กล่าวถึง “การต่อต้านพฤติกรรมกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว” ซึ่งปักกิ่งมักใช้ถ้อยคำดังกล่าวอ้างถึงมาตรการภาษีและนโยบายแข็งกร้าวของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
ภูมิภาคลาตินอเมริกาในปัจจุบันถือเป็นสมรภูมิการแข่งขันเชิงอิทธิพลระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวหาว่าจีนมีอิทธิพลเหนือ คลองปานามา (Panama Canal) และขู่ว่าสหรัฐฯ อาจเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งปักกิ่งได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
รัฐบาลวอชิงตันยังเดินหน้าขยายความสัมพันธ์กับภูมิภาค โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) ได้เยือนปานามา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา และกัวเตมาลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อกระชับความร่วมมือและ “ตอบโต้จีน” ตามถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน จีนได้จัดประชุมระดับรัฐมนตรีกับกลุ่มประเทศสมาชิก Community of Latin American and Caribbean States (Celac) ที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยออกแผนปฏิบัติการ 3 ปี มอบวงเงินสินเชื่อ 66,000 ล้านหยวน (ราว 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แก่ภูมิภาค พร้อมเชิญนักการเมืองกว่า 300 คนจากประเทศสมาชิกเยือนจีนเป็นประจำทุกปี
เอกสารนโยบายล่าสุดยังระบุด้วยว่า จีนจะกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง การทหาร วัฒนธรรม การศึกษา และกีฬา พร้อมผลักดันให้ประเทศใน Global South มีบทบาทในระบบการปกครองโลก (global governance) มากขึ้น เพื่อสร้าง “ระบบระหว่างประเทศที่เท่าเทียมและเป็นธรรมกว่าเดิม”
จีนยืนยันว่าจะปกป้องระบบการค้าเสรีพหุภาคี ต่อต้านนโยบายฝ่ายเดียว รักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและซัพพลายเชนโลก และคัดค้านแนวโน้ม “การแยกขาดทางเศรษฐกิจ (decoupling)” ในส่วนของประเด็นไต้หวัน เอกสารฉบับนี้ให้คำอธิบายโดยละเอียดกว่าฉบับปี 2016 โดยย้ำว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกได้ของดินแดนจีน และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) คือรัฐบาลที่ชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวของประเทศ”
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น ภายหลังคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) เกี่ยวกับสถานะของไต้หวัน
ในบรรดาประเทศที่ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ส่วนใหญ่เป็นประเทศในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน อาทิ ปารากวัยและกัวเตมาลา ซึ่งจีนระบุว่าพร้อม “เพิ่มพูนความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศในภูมิภาคที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน และสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นเกี่ยวกับอธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดน”
เอกสารปี 2016 ของจีนถูกเผยแพร่ในช่วงที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) เดินทางเยือนอเมริกาใต้ และเรียกร้องให้เข้าสู่ “ยุคใหม่แห่งความสัมพันธ์จีน–ลาตินอเมริกา” ซึ่งนับแต่นั้นมาปักกิ่งได้เพิ่มระดับการมีส่วนร่วมในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2018 จีนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของภูมิภาค รองจากสหรัฐฯ
จนถึงปัจจุบัน จีนได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับ 5 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ นิการากัว และเปรู ขณะที่การลงทุนโดยบริษัทจีนยังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ เขื่อน และท่าเรือ ภายใต้กรอบโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของปักกิ่ง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3335901/china-pledges-aid-latin-america-caribbean-no-political-conditions?module=top_story&pgtype=homepage