.
กองทัพภาคที่ 1 อัปเดตสถานการณ์ 5 แนวรบชายแดน จ.สระแก้ว กำลังพลบาดเจ็บ 14 นาย
11-12-2025
กองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด เผยยึดและควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน ทหารกัมพูชาใช้อาวุธวิถีโค้ง จรวด BM-21 ยิงใส่ไม่หยุด กำลังพลบาดเจ็บ 14 นาย เช็ก! กกล.บูรพา ประกาศ ห้ามออกนอกเคหสถาน 4 อำเภอ จ.สระแก้ว
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 10 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน เป็นวันที่ 3 โดยมีการปฏิบัติใน 5 พื้นที่ ดังนี้
พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย โดยเมื่อ 9 ธ.ค. 68 สามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้บางส่วนนั้น ในวันนี้ถูกต้านทานอย่างหนักจากฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะอาวุธวิถีโค้ง และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 กว่า 80 นัด ทำให้ไม่สามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์
พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้ยึดและควบคุมพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 68 และได้ดำเนินการสถาปนาที่มั่น โดยพัฒนาเป็นจุดต้านทานแข็งแรง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังมีการตอบโต้ด้วยอาวุธวิถีโค้งเป็นระยะ และในวันนี้ยังได้ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 จำนวนกว่า 20 นัด ตกในพื้นที่หมู่บ้านและไร่นาประชาชนได้รับความเสียหาย
พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 อยู่ระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย โดยฝ่ายกัมพูชามีการต้านทานอย่างหนักด้วยการยิงจากอาวุธชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังบ้านเรือนที่ชาวกัมพูชาเคยรุกล้ำอาศัยอยู่ รวมถึงในหมู่บ้านและไร่นาประชาชนชาวไทยจนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้มีเหตุการณ์การปฏิบัติที่สำคัญ คือ เมื่อเวลา 10.00 น. กกล.บูรพา และกองทัพอากาศไทย ร่วมปฏิบัติการทางอากาศ โดยเครื่องบินโจมตีแบบ F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา จำนวน1 แห่ง ได้แก่ บก.ปชด.503 ตรงข้ามบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
พื้นที่บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ : หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 วางกำลังคุ้มครองพื้นที่ มีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยอาวุธปืนเล็ก
พื้นที่ อ.คลองหาด : หน่วยเฉพาะกิจที่ 13 วางกำลังคุ้มครองพื้นที่ ซึ่งได้ตรวจพบรถสายพานลำเลียงพล 3 คัน ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม คาดว่าจะทำการเพิ่มเติมกำลังให้กับหน่วยทางด้านทิศเหนือ จึงใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงขัดขวางการเคลื่อนที่ โดยปัจจุบันยังมีการตรึงกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย
สำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 8 ธ.ค. 68 จำนวน 13 นาย รักษา รพ.วัฒนานคร และ รพ.โคกสูง ปัจจุบันทุกนายมีอาการปลอดภัย โดยวันนี้ได้รับรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 นาย คือ จ.ส.อ.รณชัย ทัศกร สังกัด ฉก.11 (หน่วยปกติ ร.9 พัน.3) ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดขณะเข้าปฏิบัติการตามภารกิจ บริเวณใกล้เคียง จต.34 บ.หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง มีอาการแน่นหน้าอก ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย ส่งเข้ารับการรักษา รพ.โคกสูง อ.โคกสูง ปัจจุบันอาการปลอดภัย รวมกำลังพลได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น จำนวน 14 นาย
นอกจากนี้ จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดรวมถึงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงใส่ฝ่ายเรา โดยไม่คำนึงถึงประเภทเป้าหมาย เป็นผลให้บ้านเรือนประชาชน ไร่นา เสาไฟฟ้าและถนน ในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง และบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ได้มีการอพยพแล้ว จำนวน 180,683 คน คิดเป็นร้อยละ 83 ซึ่งทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ มีประชาชนเข้าพักอาศัย รวม 18,030 คน โดย ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 1 (โดย ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.19) จัดตั้งโรงครัวพระราชทานปรุงอาหารแจกจ่าย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.เมือง จ.สระแก้ว
และในวันนี้ (10 ธ.ค. 68) กกล.บูรพา ได้ออกหนังสือแจ้ง เรื่อง ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน ภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด (19.00 - 05.00 น.) ในพื้นที่ 4 อำเภอตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว ได้แก่ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด เพื่อให้การปฏิบัติการทางทหารเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ ได้รับรายงาน เมื่อเวลา 17.00 น. ชาวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ เริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศ บริเวณด่านถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยผ่านการตรวจสอบเอกสารก่อนเดินทาง ยอดรวมประมาณ 800 คน
กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา, ตำรวจตระเวนชายแดน, ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมและมีกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย และขอยืนยันว่า จะยืนหยัดปฏิบัติงานตามภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินการภายใต้กฎการปะทะและสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะยุติเพื่ออธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
IMCTNews
-------------------------------------
ทหารรับจ้างอเมริกันเข้าไปช่วยกัมพูชาใข้โดรนรบกับไทย
11-12-2025
ดร. ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ และความมั่นคงเปิดเผยว่า ขณะนี้กัมพูชามีศักยภาพมากขึ้นในการใช้โดรนติดอาวุธในการทำสงครามกับไทย เพราะว่ามีผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศเข้าไปช่วยฝึก ช่วยบังคับ และช่วยควบคุมโดรน
“ในสงครามคราวที่แล้ว ทางกัมพูชามีการใช้โดรนน้อย เพราะว่าอาจจะยังไม่มีความพร้อม แต่ช่วงนีมีการใช้โดรนมาก ซึ่งมาจากการตอบโต้ฝ่ายไทย มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยฝึก ช่วย บังคับ ช่วบคุม ทำให้เขามีความพร้อมมากขึ้น” ดร. ปณิธานกล่าวในการให้สัมภาษณ์รายการTop News
ดร ปณิธานยังกล่าวต่อไปว่า ในสมรภูมิเปิดแบบนี้ ซึ่งเหมือนกันทั่วโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนที่มีความชำนาญสูงกว่ากองกำลังท้องถิ่นที่ยังไม่ได้รับการฝึกยุทโธปกรณ์สมัยใหม่เหล่านี้มากมายนัก เพราะฉะนั้นท้ังฝ่ายเราและฝ่ายกัมพูชาคงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น วพกเขามีความพร้อมมากขึ้น หลังจากที่เขาเห็นเราเอากำลังเข้าไปมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดร ปณิธานยอมรับว่าผู้เชี่ยวชาญโดรนที่เข้าไปช่วยกัมพูชารบกับไทยเป็นอเมริกัน แต่มาในรูปของทหารรับจ้าง
หากว่าข่าวที่ทหารรับจ้างอเมริกันเข้าไปช่วยกัมพูชาใช้โดรนรบกับไทยเป็นจริง เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับการเปิดเผยของพันโท ดักลาส แมคเครเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญทางทหารของสหรัฐ และอดีตที่ปรึกษาของเพนตากอนที่ได้ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ซีไอเอแอบปฏิบัติการลับที่บริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชา และมีส่วนในความขัดแย้ง
ทางยูเครนมีการใช้โดรนเข้าไปโจมตีตก คารบ้านเรือน รวมท้ังโรงกลั่นน้ำมัน และสนามบินของรัสเซีย ทำให้ได้รับความเสียหายมาก ทางรัสเซียเชื่อว่า ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติน่าที่จะเข้ามาช่วยยูเครนในปฏิบัติการก่อวินาศกรรม หรือโจมตีรัสเซีย เพราะว่าลำพังทหารยูเครนไม่น่าที่จะมีศักยภาพสูงในการใช้โดรนที่มีประสิทธิภาพสูง
IMCT News