ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ย้ำทรัมป์ ต้องการ “รีเซ็ตสัมพันธ์” กับจีน  หลังปีแห่งสงครามภาษีแม้ยังขัดแย้งเรื่องแร่สำคัญ–ชิป AI

11-12-2025

   SCMP รายงานว่า สหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับจีน หลังปีแห่งสงครามภาษี พร้อมคงแนวทางบริหารความสัมพันธ์ทางการค้าแบบ “จัดการได้” แม้ยังมีความเห็นต่างด้านแร่สำคัญและการส่งออกชิป AI

  นายเจมีสัน เกรียร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (US Trade Representative) กล่าวเมื่อวันพุธที่การเสวนาซึ่งจัดโดยสภาแอตแลนติก (Atlantic Council) ว่า สหรัฐฯ กำลังพยายามสร้าง “ความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์มากขึ้น” กับจีน หลังปีแห่งความตึงเครียดทางการค้า พร้อมยืนยันว่าวอชิงตันจะเดินหน้าควบคุมและ “บริหารจัดการ” ความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีต่อไป

  คำแถลงมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และจีนเผชิญการปะทะดุเดือดตลอดทั้งปีจากสงครามภาษี โดยจีนได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earth) และระงับการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้นโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเกือบถึงระดับ “คว่ำบาตรทางการค้า”

  เกรียร์กล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับว่าประธานาธิบดีทรัมป์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมีความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับจีน” บรรยากาศตึงเครียดระหว่างสองประเทศได้ผ่อนคลายลงชั่วคราว หลังการพบปะระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจัดการเยือนระดับผู้นำรวม 4 ครั้งในปีหน้า เริ่มจากการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของทรัมป์ในเดือนเมษายน ซึ่งช่วยให้กระแสการค้าระหว่างสองประเทศกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

   เกรียร์ระบุว่า แม้สหรัฐฯ จะมีอำนาจต่อรองเหนือจีนในหลายประเด็น แต่ “ความสนใจของประธานาธิบดีไม่ใช่การทำลายทุกอย่าง รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนด้วย”

   นายเกรียร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกแบบมาตรการภาษีโลกภายใต้ชื่อ “Liberation Day Tariffs” ของทรัมป์ และเคยนั่งร่วมโต๊ะเจรจากับจีนถึงห้ารอบในปีนี้ กล่าวว่า การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน “จำเป็นต้องบริหารจัดการ” เพื่อรักษาสมดุล โดยประเมินว่าดุลการค้าขาดดุลของสหรัฐฯ ต่อจีนน่าจะลดลงราว 25% ภายในปีนี้

  “หลังจากการเจรจาที่นครเจนีวา เราเห็นท่าทีของจีนที่เป็นเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น และตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ความสัมพันธ์ในด้านบวกก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” เกรียร์กล่าว

  ข้อมูลจากศุลกากรจีนล่าสุดระบุว่า ดุลการค้าเกินดุลของจีนกับสหรัฐฯ ลดลง 21.3% อยู่ที่ 257,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง 18.9% เหลือ 385,900 ล้านดอลลาร์ ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นตลาดนำเข้าลำดับที่สามของจีน รองจากแคนาดาและเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม จีนยังคงทำสถิติส่งออกเกินดุลกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งมีแนวโน้มสร้างสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากการขยายตัวของการส่งออกไปยังตลาดนอกสหรัฐฯ

   ขณะเดียวกัน ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ได้วิจารณ์การตัดสินใจของทำเนียบขาวที่อนุมัติให้บริษัท Nvidia จำหน่ายชิป AI รุ่น H200 ให้จีน โดยมองว่าเป็น “ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ”

  จดหมายร่วมของวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต 8 คน นำโดยจีนน์ ชาฮีน (Jeanne Shaheen) สมาชิกอาวุโสคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา ระบุว่า “ชิป H200 มีขีดความสามารถเหนือกว่าทุกเทคโนโลยีที่จีนสามารถผลิตได้ การเปิดโอกาสให้จีนได้รับชิปดังกล่าวคือการทำลายข้อได้เปรียบหลักของสหรัฐฯ ในการแข่งขันปัญญาประดิษฐ์”

   พวกเขายังเรียกร้องให้ทรัมป์ “เปลี่ยนแนวทางและยืนยันพันธกิจในการรักษาความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในเทคโนโลยี AI” ในเวทีเดียวกัน เกรียร์ปฏิเสธแนวคิดจัดตั้งระเบียบภาษีเฉพาะสำหรับจีน โดยชี้ว่าระดับภาษีปัจจุบันที่ราว 45% ถือว่าสูงที่สุดในโลกแล้ว และมองว่าการดำเนินการฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดตั้งแนวร่วมระหว่างประเทศ

  “บางครั้งพันธมิตรของเราชอบพูดว่าเราควรจะจัดแนวทางเกี่ยวกับจีนร่วมกัน ซึ่งในหลายกรณีก็หมายถึง ‘อย่าเก็บภาษีฉันเลย’” เกรียร์กล่าว พร้อมเสริมว่าแนวคิดจำแนกนักการเมืองในวอชิงตันว่าเป็น “สายเหยี่ยวจีน” หรือ “สายพิราบจีน” ไม่สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลทรัมป์ เพราะ “เรามีจุดยืนเดียว คือสนับสนุนผลประโยชน์ของอเมริกา”

   ในการให้การต่อวุฒิสภาคณะอนุกรรมาธิการด้านพาณิชย์ ความยุติธรรม วิทยาศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Senate Appropriations Subcommittee on Commerce, Justice, Science, and Related Agencies) เมื่อวันอังคาร เกรียร์เปิดเผยว่าบริษัทจีนได้สั่งซื้อถั่วเหลืองแล้วกว่า 3 ล้านตัน และตั้งเป้านำเข้ารวม 12 ล้านตันภายในสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวเดือนมีนาคมนี้

   “เรายังคงรักษาอำนาจต่อรองกับจีนผ่านกลไกภาษี และแน่นอนว่าทุกอย่างอยู่บนเงื่อนไขว่าจีนต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนี้” เกรียร์กล่าวทิ้งท้าย

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/news/china/article/3335970/us-seeks-constructive-reset-china-trade-tensions-ease-greer?module=top_story&pgtype=section