.
ฟอรั่มลงทุนรัสเซีย–ไทย 2025 ดันไทยฐานยุทธศาสตร์รัสเซียในอาเซียน ต่อยอดคู่ค้า BRICS ชู 'หยวนดิจิทัล' ชำระเงินข้ามพรมแดน
12-12-2025
RTIF 2025: รัสเซีย ชี้ ไทย คือ "ประตูสำคัญ" สู่ ASEAN เตรียมขยายความร่วมมือรอบด้าน ตั้งเป้าปลดล็อกศักยภาพการลงทุน 1 พันล้าน USD
การประชุมนักลงทุน รัสเซีย-ไทย (Russia-Thailand Investment Forum - RTIF 2025) ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้น ณ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2025 ได้กลายเป็นเวทีสำคัญ (Flagship Event) สำหรับการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของ รัสเซีย (Russia) ไม่เพียงแต่กับ ไทย (Thailand) แต่ยังรวมถึงกลุ่มประเทศ ASEAN โดยนับเป็นหมุดหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการบูรณาการทางเศรษฐกิจระหว่างยูเรเชีย (Eurasian) และ ASEAN ในวงกว้างยิ่งขึ้น
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ไทย (Thailand) ได้เข้าเป็นประเทศคู่ค้า (Partner Nation) ของ BRICS เมื่อวันที่ 1 มกราคมปีนี้ และได้แสดงความสนใจในการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับ Eurasian Economic Union (EAEU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินและส่งเสริมศักยภาพทางการค้าและการลงทุนทวิภาคีร่วมกัน
การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี: ความจำเป็นที่เพิ่มขึ้น
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง รัสเซีย (Russia) และ ไทย (Thailand) ได้ขยายตัวอย่างมั่นคงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จากการค้าแบบดั้งเดิมในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โลหะ และปุ๋ย ไปสู่ภาคส่วนที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value-added sectors) ที่หลากหลายมากขึ้น โดยในปี 2024 มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศแตะที่ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตของการค้าร่วมกันประมาณ 8%
การลงทุนของ รัสเซีย (Russia) ใน ไทย (Thailand) ได้แซงหน้า 6-7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการครองส่วนแบ่งถึง 40% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติใน ไทย (Thailand) ในขณะที่การส่งออกของ รัสเซีย (Russia) มายัง ไทย (Thailand) เพิ่มขึ้น 50% นำโดยปุ๋ย ยาฆ่าแมลง แร่โลหะ เศษโลหะ และเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ รัสเซีย (Russia) ยังคงเป็นกำลังหลักในตลาดการท่องเที่ยวของ ไทย (Thailand) ในภูมิภาคยุโรป โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะแตะระดับ 2 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของความสัมพันธ์ระดับประชาชน แม้จะเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก (Western economic bullying) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลในการลงทุนร่วมกันในภาคการท่องเที่ยวและการบริการ
การปรากฏตัวของการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธุรกิจและนักลงทุนชาว รัสเซีย (Russia) ในศักยภาพทางเศรษฐกิจและทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของ ไทย (Thailand) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนักลงทุนชาว รัสเซีย (Russia) เป็นอันดับสองในด้านกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ รองจากผู้ซื้อชาวจีน (Chinese buyers) ซึ่งครองสัดส่วนถึง 60% ของการซื้อในบางพื้นที่ของ ภูเก็ต (Phuket) การลงทุนของ รัสเซีย (Russia) ที่คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติใน ไทย (Thailand) ทำให้ราชอาณาจักรแห่งนี้เป็นด่านสำคัญ (Vital Gateway) สำหรับการขยายตัวของ รัสเซีย (Russia) ใน ASEAN การกระชับความสัมพันธ์นี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกการผนึกกำลังทางเศรษฐกิจ (Economic Synergy) ระหว่างยูเรเชีย-ASEAN ในภาคอสังหาริมทรัพย์
การส่งออกปุ๋ยของ รัสเซีย (Russia) ไปยังตลาด ไทย (Thailand) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 50% และการนำเข้ายางพาราของ ไทย (Thailand) ไปยังตลาด รัสเซีย (Russia) เพิ่มขึ้น 28% สะท้อนถึงความสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจ (Economic Complementarity) ซึ่งเป็นสัญญาณของความพยายามที่มั่นคงในการสร้างสมดุลการค้า และการกระจายความหลากหลายทางการค้า (Trade Diversification)
วาระเร่งด่วน: ความร่วมมือภายใต้แรงกดดัน
แม้จะมีตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่ศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ (Untapped Potential) ยังมีสูง ด้วยจำนวนประชากรของ ไทย (Thailand) กว่า 70.27 ล้านคน และ GDP ปรับตามกำลังซื้อ (PPP-adjusted GDP) ที่เกิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 ควบคู่ไปกับ GDP ปรับตามกำลังซื้อ (PPP GDP) ของ รัสเซีย (Russia) ที่ใกล้เคียง 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ความสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศชัดเจน โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ ไทย (Thailand) จะเติบโตขึ้นเป็นประมาณ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030 การเติบโตนี้เป็นพื้นฐานที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการขยายความร่วมมือทวิภาคีในหลายภาคส่วน
ประเด็นสำคัญคือ ธุรกิจในทั้งสองประเทศมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือและกำลังมองหารูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ใหม่ ๆ ท่ามกลางการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการที่เรียกว่าคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก (Western Sanctions) แรงกดดันนี้ไม่ได้บั่นทอนความเป็นหุ้นส่วน แต่กลับเร่งให้เกิดการค้นหารูปแบบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รัสเซีย-ไทย (Russian–Thai economic cooperation) ที่ใช้งานได้จริงและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
เวที RTIF 2025: แพลตฟอร์มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์
การประชุม RTIF 2025 ได้รวบรวมนักลงทุน เจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้นำทางธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คนจาก รัสเซีย (Russia) และ ไทย (Thailand) ซึ่งรวมถึงตัวแทนจากบริษัทมากกว่า 200 แห่ง ในภาคส่วนโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว การเงิน IT การศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)
การประชุมครั้งนี้ จัดโดย Russian-Thai Business Council ด้วยการสนับสนุนจาก Russian Ministry of Industry and Trade และสถานทูตที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นการหารือที่เน้นการปฏิบัติ (Pragmatic discussions) เกี่ยวกับโครงการลงทุนร่วม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) และการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่ ๆ ผู้เข้าร่วมระดับสูง อาทิ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ทูต และหัวหน้าองค์กรขนาดใหญ่ เช่น Rosatom State Corporation และ Sberbank ได้ตอกย้ำความสำคัญของการส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจระยะยาวที่ตั้งอยู่บนความไว้วางใจ ความโปร่งใส และผลประโยชน์ร่วมกัน
โอกาสหลักสำหรับบริษัทและนักลงทุน รัสเซีย (Russia):
โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบูรณาการ (ITD): ภาคโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วของ ไทย (Thailand) เสนอโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุน รัสเซีย (Russia) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงการบูรณาการพื้นที่ (Integrated Territorial Projects) ที่คล้ายกับโมเดล Integrated Territorial Development (ITD) ของ รัสเซีย (Russia)
การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและ FinTech: เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นรากฐานสำคัญ (Cornerstone) ของวาระการเป็นหุ้นส่วน รัสเซีย-ไทย (Russia-Thailand) ความก้าวหน้าของ รัสเซีย (Russia) ในด้าน AI, Cybersecurity, ซอฟต์แวร์อุตสาหกรรม, และ FinTech สอดคล้องกับการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในวงกว้างของ ไทย (Thailand) โดยเปิดโอกาสให้บริษัทและสตาร์ทอัพ รัสเซีย (Russia) สามารถร่วมมือในโครงการอธิปไตยทางดิจิทัล (Digital Sovereignty) ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ต่างชาติ
สาธารณสุข เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานนิวเคลียร์ และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์: ความเป็นผู้นำระดับโลกของ ไทย (Thailand) ในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ผสานกับภาคเทคโนโลยีชีวภาพและนวัตกรรมด้านสุขภาพที่กำลังเฟื่องฟูของ รัสเซีย (Russia) นำมาซึ่งความเป็นไปได้ในการร่วมทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีนิวเคลียร์ขั้นสูงของ รัสเซีย (Russia) ยังเสนอโอกาสการลงทุนที่สำคัญสำหรับภาคพลังงานนิวเคลียร์ที่กำลังพัฒนาของ ไทย (Thailand) ซึ่งสามารถเร่งการกระจายความหลากหลายทางพลังงานของประเทศ
เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการส่งออกทางวัฒนธรรม: ภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใน รัสเซีย (Russia) และ ไทย (Thailand) คาดว่าจะเติบโตเป็นสองเท่าภายในปี 2030 โครงการความร่วมมือในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี วิดีโอเกม และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property–Driven Industries) ซึ่งเน้นผ่านความคิดริเริ่ม เช่น Moskino Film Ecosystem จะเปิดทางไปสู่การเป็นอำนาจอ่อน (Soft Power) และอิทธิพลทางเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่
การรวมกลุ่ม ยูเรเชีย-ASEAN: ระเบียงเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์
นอกเหนือจากผลประโยชน์ทวิภาคีแล้ว การเป็นหุ้นส่วน รัสเซีย-ไทย (Russia-Thailand) ยังเป็นสัญญาณของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นระหว่าง Eurasian Economic Union (EAEU) และ ASEAN ซึ่งเป็นกลุ่มภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดสองแห่งของโลก เวทีนี้ได้กล่าวถึงการเกิดขึ้นของระเบียงโลจิสติกส์ใหม่ การขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) และศูนย์กลางการลงทุนร่วม เพื่อปรับปรุงการค้าและการลงทุนข้ามยูเรเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีการแนะนำว่า ไทย (Thailand) ควรริเริ่มการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับ EAEU ตามรอย เวียดนาม (Vietnam) และ สิงคโปร์ (Singapore) เพื่อผลักดันการรวมกลุ่มเข้าสู่ตลาด ยูเรเชีย (Eurasian markets) ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองภูมิภาคสามารถต่อต้านการแตกแยกของศูนย์กลางทางการเงินโลก (Fragmentation of Global Financial Centers) และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้
การจัดการอุปสรรคและการสร้างความไว้วางใจ
แม้จะมีโอกาสที่สดใส การประชุมยังได้กล่าวถึงความท้าทายที่ต่อเนื่อง เช่น อุปสรรคในการทำธุรกรรม ความแตกต่างของกฎระเบียบด้านภาษี ปัญหาการรวมระบบการเงิน และความต้องการกลไกการปกป้องการลงทุนที่โปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนต่างชาติใน ไทย (Thailand)
ในการประชุม RTIF 2025 ทูตประธานาธิบดี บอริส ติตอฟ (Boris Titov) ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของการเปลี่ยนแปลงของ หยวนดิจิทัล (Digital Yuan) ในการแก้ไขปัญหาการชำระเงินที่ค้างคามายาวนานระหว่างสองประเทศ โดยการใช้แพลตฟอร์ม Renminbi Digital ที่เปิดใช้งานแล้ว รัสเซีย (Russia) และ ไทย (Thailand) กำลังก้าวข้ามอุปสรรคทางการเงินแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม ติตอฟ (Titov) ยังชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดด้านการลงทุนและอุปสรรคทางการค้าด้านการเกษตรที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกเนื้อสัตว์ของ รัสเซีย (Russia) และการนำเข้าอาหารทะเลของ ไทย (Thailand) ซึ่งจำกัดศักยภาพของความร่วมมือทวิภาคี การแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้ผ่านการปฏิรูปนโยบายที่มุ่งเป้า และการขยายโซลูชันการชำระเงินดิจิทัลจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
บทสรุปและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์
การประชุม Russia-Thailand Investment Forum 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนในการทูตเศรษฐกิจและความร่วมมือเชิงปฏิบัติ โดยการผนึกกำลังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม ทำให้เกิดรากฐานสำหรับการเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุมหลายภาคส่วน เวทีนี้ช่วยปลดล็อกศักยภาพการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับบริษัททั้งจาก รัสเซีย (Russia) และ ไทย (Thailand) ในปีต่อ ๆ ไป การเป็นหุ้นส่วนนี้จึงเป็นมากกว่าความสัมพันธ์ทวิภาคี แต่เป็นแบบอย่างในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจยูเรเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางยุคของการแตกแยกทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งรับประกันการเติบโตที่ยั่งยืนและความมั่งคั่งร่วมกันในทศวรรษหน้า
---
IMCT NEWS
ที่มา https://russiaspivottoasia.com/russia-thailand-investment-forum-2025-russias-comprehensive-economic-ties-with-thailand-and-asean/