กองทุน Harvard เพิ่มน้ำหนัก Bitcoin และทองคำใน Q3 ชี้เป็นสินทรัพย์ทางเลือกหลักสู้ความเสี่ยงเงินเฟ้อ

12-12-2025

    Kitco News รายงานว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงเดินหน้าลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างลึกซึ้งขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Bitcoin และทองคำในช่วงไตรมาสที่สาม

   ตามการเปิดเผยเอกสาร 13F ไตรมาสที่สาม ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว Harvard Management Company (HMC) ได้เพิ่มการถือครอง iShares Bitcoin Trust ETF เป็น 6.813 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 442.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

   HMC ยังได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน SPDR Gold Shares (NYSE: GLD) เป็น 661,391 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 235.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    ปัจจุบัน การถือครอง Bitcoin ของ HMC คิดเป็น 21% ของการถือครองหุ้นในตลาดสหรัฐฯ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้กลายเป็นตำแหน่งการลงทุนเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในพอร์ต 13F ขณะเดียวกัน สัดส่วน Bitcoin ที่จัดสรรไว้นี้ คิดเป็นสองเท่าของการถือครองกองทุน ETF ทองคำ

    นี่เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันที่ Harvard ได้เพิ่มการลงทุนในทองคำและ Bitcoin

มุมมองนักวิเคราะห์ต่อสินทรัพย์ทางเลือก

   ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของ HMC ในสินทรัพย์ทางเลือกเกิดขึ้นในขณะที่ราคาทองคำยังคงซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,188 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในปีนี้ ขณะที่ Bitcoin ลดลง 2% ในปีที่ถือว่ามีความผันผวนอย่างมาก

  ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ Kitco News นายอีริก สแตรนด์ (Eric Strand) ผู้ก่อตั้ง AuAg Funds บริษัทโลหะมีค่าเฉพาะทาง กล่าวว่า ภาคการลงทุนมืออาชีพมีศักยภาพการเติบโตอย่างมากสำหรับสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ

   สแตรนด์ (Strand) ตั้งข้อสังเกตว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และ Family Offices ถือครองทองคำเพียง 2% ของสินทรัพย์รวมเท่านั้น และเสริมว่าสินทรัพย์ทางเลือกกำลังดึงดูดความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและภาวะขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น สร้างความเสี่ยงให้กับพันธบัตรมากขึ้น "แม้จะเกิน 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ทองคำก็ยังมีช่องว่างให้ปรับตัวสูงขึ้นอีก เพราะยังมีการถือครองที่น้อยเกินไป" เขากล่าว "ยังมีเวลาที่จะเข้าลงทุนในทองคำ"

    ในการสัมภาษณ์เดียวกัน ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านเศรษฐศาสตร์ ธอร์สเทน โพลไลต์ (Thorsten Polleit) จากมหาวิทยาลัย Bayreuth และผู้จัดพิมพ์ BOOM & BUST REPORT กล่าวว่า เขาก็เห็นการหมุนเวียนเงินทุนเข้าสู่ทองคำและออกจากตลาดพันธบัตรในไม่ช้าเช่นกัน  "ความเสี่ยงสูงสุดในขณะนี้คือการไม่ถือครองทองคำเลย" เขากล่าว

    โพลไลต์ (Polleit) เสริมว่า ไม่เพียงแต่ภาวะเงินเฟ้อจะกัดกร่อนมูลค่าของพันธบัตรระยะยาวเท่านั้น แต่ผลตอบแทนพันธบัตรจะต้องปรับตัวลดลงตามมา เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลก นำโดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ยังคงลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-12-08/harvard-endowment-fund-increases-holdings-bitcoin-and-gold-q3