.
เอเชียแซงหน้าสหรัฐฯ ลงทุนทองผ่านกองทุน ETF ดันยอดถือครองทำลายสถิติใหม่ $5.3 แสนล้าน จีน–ญี่ปุ่น–อินเดียซื้อเพิ่มต่อเนื่อง
9-12-2025
Money Metals รายงานว่า กองทุนเอเชียขับเคลื่อน: เงินทุนไหลเข้า Gold ETFs ทั่วโลก ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ทำสถิติ AUM สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กองทุนรวมดัชนีทองคำ (Gold ETFs) ทั่วโลกรายงานยอดถือครองทองคำเพิ่มขึ้นสุทธิเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน โดยมีแรงผลักดันหลักจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
โดยรวมแล้ว กองทุนที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ (Gold-backed funds) รายงานการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 38.5 ตัน อัตราการไหลเข้าของโลหะทองคำนี้แม้จะลดลงจากอัตราที่ร้อนแรงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนของปี 2024 อย่างมาก ทั้งนี้ กองทุน Gold ETFs กำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นปีที่มีการเติบโตแข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจุบัน กองทุน Gold ETFs ทั่วโลกถือครองทองคำรวมทั้งสิ้น 3,932 ตัน ซึ่งเป็นยอดรวม ณ สิ้นเดือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) โดยกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ณ สิ้นเดือนที่ 530,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
บทบาทนำของกองทุนเอเชีย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กองทุนในอเมริกาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการไหลเข้า แต่สถานการณ์ได้พลิกกลับในเดือนพฤศจิกายน โดยกองทุนในเอเชียรายงานการถือครองทองคำที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากที่สุด กองทุน ETFs ที่มีฐานอยู่ในเอเชียเพิ่มการถือครองทองคำสุทธิ 23.6 ตัน ส่งผลให้ AUM เพิ่มขึ้น 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กองทุนของจีนเป็นผู้นำในการเติบโต โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่กองทุนของญี่ปุ่นก็รายงานการเติบโตที่มั่นคงเช่นกัน ตามข้อมูลของสภาทองคำโลก (World Gold Council หรือ WGC) ระบุว่า "ความอ่อนแอของตลาดตราสารทุน ราคาทองคำที่ฟื้นตัว และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นการลงทุนใน Gold ETF ในประเทศจีน (China) และญี่ปุ่น (Japan)"
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศจีนอาจมีส่วนทำให้นักลงทุนมีความสนใจในทองคำเพิ่มขึ้น โดย WGC ชี้ว่า ผู้ซื้อเครื่องประดับที่มีแรงจูงใจในการลงทุนหันมาใช้ Gold ETFs เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน กองทุน ETFs ของอินเดีย (India) ก็รายงานการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่หก
ภาพรวมตลาดในทวีปอื่น ๆ
เงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนในอเมริกาเหนือ (North American funds) ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนพฤศจิกายน แต่ยังคงเป็นบวก โดยมีการเพิ่มทองคำ 7.3 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการไหลเข้าของทองคำในกองทุน ETFs ติดต่อกันเป็นเดือนที่หกในภูมิภาคอเมริกาเหนือ
สำหรับกองทุนในยุโรป (European funds) พลิกกลับมาเป็นบวกในเดือนพฤศจิกายน โดยรายงานการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 7.9 ตัน มูลค่า 978 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดตราสารทุนที่ซบเซาและราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ตลาดทองคำมากขึ้น กองทุนในสหราชอาณาจักร (UK) และเยอรมนี (Germany) เป็นผู้นำในการไหลเข้า โดยกองทุน UK ETFs ได้รับแรงหนุนจากงบประมาณใหม่ที่คาดว่าจะช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนในภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงออสเตรเลีย (Australia) และแอฟริกา (Africa) รายงานการไหลออกของทองคำเล็กน้อยที่ -0.4 ตัน โดยการไหลเข้าของออสเตรเลียไม่สามารถชดเชยการไหลออกในแอฟริกาใต้ (South Africa) ได้
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนทองคำ
สภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า มีปัจจัยสามประการที่สนับสนุนการลงทุนใน Gold ETF เมื่อเดือนที่แล้ว: ราคาทองคำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นปิดเดือนด้วยการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5
ในช่วงปลายเดือน ความคาดหวังของนักลงทุนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีความเข้มข้นขึ้น เนื่องจากดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงช่วยสร้างความเชื่อมั่น
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ (US) กับเวเนซุเอลา (Venezuela)
อย่างไรก็ดี ความผันผวนของตลาดตราสารทุนได้สร้างแรงกดดันบางส่วนต่อ Gold ETFs เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อชดเชยการขาดทุนในภาคส่วนอื่น ๆ
สภาพคล่องและการซื้อขายทองคำ
Gold ETFs เป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับนักลงทุนในการเข้ามาเล่นในตลาดทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง โดยสามารถซื้อหรือขายหน่วยลงทุนได้ง่ายดาย และไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่งหรือจัดเก็บโลหะ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรในตลาดทองคำโดยไม่ต้องซื้อทองคำเต็มออนซ์ตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น (spot price) ด้วยการซื้อขายในรูปแบบตัวเลขบนคอมพิวเตอร์ นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนหน่วยลงทุน ETF เป็นหุ้นอื่นหรือเงินสดได้อย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งในวันเดียวกัน ซึ่งนักลงทุนเก็งกำไรจำนวนมากใช้ประโยชน์จากสภาพคล่องนี้
ทว่าการถือครองหุ้น ETF ไม่เหมือนกับการถือครองทองคำทางกายภาพ นักลงทุนถือเพียง "สินทรัพย์ที่เป็นกระดาษ" และไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่นอนว่ากองทุนมีการถือครองทองคำจริงครบตามจำนวนทั้งหมดหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กองทุนมีเงินทุนไหลเข้าสูง ซึ่งเคยมีรายงานถึงความยากลำบากหรือความล่าช้าในการจัดหาโลหะทองคำจริง
หลังจากเดือนตุลาคมทำสถิติสูงสุด ปริมาณการซื้อขายทองคำ (Gold Trading Volumes) ลดลงร้อยละ 26 เหลือ 417,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนของราคาที่ลดลง เนื่องจากราคาทองคำส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแบบคงที่ (sideways) ตลอดทั้งเดือน ในแง่ของปริมาณน้ำหนัก สภาพคล่องของตลาดทองคำทั่วโลกก็ลดลงร้อยละ 26 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3,167 ตันต่อวันในเดือนพฤศจิกายน
การซื้อขายแบบนอกตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-counter trading) ลดลงร้อยละ 24 เหลือ 188,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ส่วนกิจกรรมการซื้อขาย Gold ETF ทั่วโลกดิ่งลงถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เหลือ 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน แม้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2024 ที่ 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน
ข้อมูลสถานะซื้อสุทธิ (net longs) ของผู้จัดการกองทุนในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ COMEX ยังคงมีความล่าช้าเนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (government shutdown) ของสหรัฐฯ โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14 ตุลาคม แสดงให้เห็นถึงการลดลงของสถานะซื้อสุทธิ ขณะที่สัญญาคงค้าง (Open interest) มีแนวโน้มขึ้นและลงตลอดทั้งเดือน โดยปิดเดือนพฤศจิกายนที่ 179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ ณ สิ้นเดือนตุลาคม
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/12/07/asian-funds-dominate-as-etfs-add-gold-for-sixth-straight-month-004531