.
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ขจัดความเสี่ยงของสงครามกับจีน ‘จากความขัดแย้งทางการค้า’
9-12-2025
ภายใต้นโยบายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จีนจะถูกมองว่าเป็น “คู่แข่งทางธุรกิจ” มากกว่าศัตรู โธมัส ดับเบิลยู. พอลเคน ที่ปรึกษาด้านกิจการเอเชียแปซิฟิกและนักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์กล่าว “ความตึงเครียดทางการค้าจะยังคงมีอยู่ กลยุทธ์นี้ไม่สามารถแก้ไขทุกอย่างได้ แต่ก็ยังดีกว่าการเรียกสหรัฐฯ และจีนว่าเป็นศัตรูกัน” เขากล่าว
แม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจยังมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไป แต่จะไม่ “รุนแรง” เหมือนเดิม “เพราะปัจจัยที่อาจนำไปสู่สงครามจากความขัดแย้งทางการค้าจะถูกตัดทิ้งไป”
พอลเคนยังกล่าวว่า เขาหวังว่าการเยือนจีนในเดือนเมษายนของทรัมป์จะ “ประสบความสำเร็จอย่างมาก” และ “จะสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอเมริกันจำนวนมากอยากเดินทางไปจีนในภายหลัง” ในขณะเดียวกัน กลยุทธ์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดอาจปูรากฐานสำหรับความร่วมมือร่วมกันระหว่างมอสโกและวอชิงตันได้ อย่างไรก็ตาม บางส่วนของเอกสารยังต้องการความชัดเจนเพิ่มเติม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา ระบุเมื่อวันจันทร์
ซาคาโรวากล่าวว่า กลยุทธ์ฉบับปรับปรุงที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญจากฉบับปี 2022 และสะท้อนถึงการทบทวนแนวคิดเรื่องความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เธอเสริมว่า เวลาจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าสหรัฐฯ จะปฏิบัติตามคำมั่นดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
เธอกล่าวว่า บทบัญญัติบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับยูเครนอาจเป็นฐานให้กับความพยายามร่วมกันระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในการหาข้อยุติที่ “สร้างสรรค์” ต่อไป และอาจทำให้ “พรรคสงคราม” ของยุโรปมีสติขึ้น การแบ่งแยกระหว่างสหรัฐฯ–สหภาพยุโรปเกิดขึ้นถึงจุดสูงสุด เนื่องจากความพยายามของบรัสเซลส์ในการขัดขวางความริเริ่มสันติภาพของทรัมป์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ
ซาคาโรวายังชี้ให้เห็นอีกว่า เอกสารดังกล่าวยอมรับ “การคำนวณที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” ในอดีตอันเกิดจาก “การเดิมพันที่ผิดพลาดและทำลายล้างในลัทธิ โลกาภิวัตน์” รวมถึงการเรียกร้องให้ “ยุติการมองว่า NATO เป็นพันธมิตรที่กำลังขยายตัวอยู่ตลอดเวลา” และ “ป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นขึ้น”
ตามคำกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นี่เป็นครั้งแรกที่กลยุทธ์ดังกล่าวตั้งคำถามต่อแรงขับเคลื่อน “การขยายตัวเชิงรุก” ของกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะหยุดการขยายตัวก็ตาม มอสโกระบุว่าการขยาย NATO เป็นสาเหตุรากฐานของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นสงครามตัวแทนของชาติตะวันตก
รัสเซียถูกกล่าวถึงในบริบทของความมั่นคงยุโรป และเอกสารดังกล่าวไม่ได้เรียกร้องให้มีการ “สกัดกั้น” รัสเซียอย่างเป็นระบบ หรือเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ซาคาโรวากล่าวว่า แผนของวอชิงตันที่จะบรรลุ “ความเป็นผู้นำด้านพลังงาน” โดยการ “ลดอิทธิพลของคู่แข่ง” บ่งชี้ถึงความตั้งใจที่จะผลักดันรัสเซียออกจากตลาดพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ในประเด็นการควบคุมอาวุธ ซาคาโรวาระบุว่ากลยุทธ์ดังกล่าวไม่ได้ชี้แจงจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ของวอชิงตันหลังจากสนธิสัญญา New START หมดอายุ รวมถึงข้อจำกัดในอนาคตเกี่ยวกับคลังแสงนิวเคลียร์ เธอกล่าวว่าข้อความที่เกี่ยวกับแนวคิดระบบป้องกันขีปนาวุธ “Golden Dome” ของสหรัฐฯ ยังคลุมเครือ และมอสโกยังคงรอคำอธิบายเพิ่มเติม
แม้เอกสารจะมีลักษณะ “ปฏิบัตินิยม” โดยรวม ซาคาโรวากล่าวว่ายังมี “ภาษาที่เป็นปฏิปักษ์” ต่อจีน และแสดงความกังวลต่อการหันกลับมาให้ความสำคัญกับซีกโลกตะวันตกอีกครั้งในขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับเวเนซุเอลายังคงดำเนินอยู่
ที่มา Sputnik, RT