.

อินเดียหันมาจับมือกับจีน เมื่อเห็นว่าการเป็นพันธมิตรกับตะวันตกอาจจะไปไม่รอด
13-8-2025
โดนัลด์ ทรัมป์เก็บภาษีอินเดีย50% โดยกล่าวหาว่าอินเดียซื้อน้ำมันรัสเซียในราคาถูกและเอาไปขายในตลาดเปิดในราคาที่แพงกว่า นอกจากนี้ระบบของอินเดียมีกฎระเบียบต่างๆมากมายที่เป็นอุปสรรคของการค้า เรื่องนี้อาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้นายกรัฐมนตรี นาเรนดรา โมดีของอินเดียตัดสินใจหันกลับมาใช้นโยบายLook East แทนที่จะฝากผีฝากไข้นโยบายเศรษฐกิจ ต่างประเทศและความมั่นคงของอินเดียกับตะวันตกเหมือนในอดีต โดยอินเดียพยายามเหยียบเรือสองแคม อยู่กับท้ังตะวันตกและทั้งกับกลุ่มBRICS และShanghai Cooperation Organization ของโลกตะวันออก
จากที่เคยมีความขัดแย้งกับจีนอย่างรุนแรง เพราะเกรงความเป็นมหาอำนาจของจีน อินเดียกำลังเปลี่ยนนโยบายมารื้อฟื้นสัมพันธไมตรีกับจีนอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากถูกทรัมป์หักหลังด้วยการเก็บภาษี50%สำหรับสินค้าอินเดียที่ส่งเข้าตลาดสหรัฐ โมดีมีการต่อสายพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และปล่อยข่าวว่าจะเดินทางไปร่วมประชุมShanghai Cooperation Organization ที่จีนเป็นเจ้าภาพในวันที่ 31 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นับว่าเป็นการเดินทางไปเยือนจีนคร้ังแรกในรอบ7ปีของโมดี ซึ่งสะท้อนความระหองระแหงใจระหว่างโมดีกับสีในช่วงที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียพยายามประคับประคองความสัมพันธ์กับรัสเซียเพื่อโน้มน้าวให้อินเดียยึดมั่นอยู่กับกลุ่มBRICS เพราะว่าหากอินเดียไม่แตกแถว อยู่กับกลุ่มBRICS จะทำให้อำนาจการต่อรองในเวทีโลกในการสร้างโลกใหม่ผ่านระบบพหุภาคีเพิ่มขึ้น และลดอำนาจของตะวันตกไปในตัว จะเห็นได้ว่าก่อนที่ปูตินจะประชุมซัมมิทกับทรัมป์ที่อลาสก้าในวันที่15สิงหาคม ปูตินได้โทรศัพท์หาผู้นำของBRICSที่เป็นชาติร่วมก่อตั้งแรกเริ่ม ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ของอินเดีย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา (Cyril Ramaphosa) ของแอฟริกาใต้ และประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inácio Lula da Silva) ของบราซิล เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าล่าสุดของการเจรจาในประเด็นยูเครน
ปูตินต้องการส่งสัญญานว่าการพูดคุยกับทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัสเซียกับสหรัฐบวกนาโต้ในยุโรปเท่านั้น แต่มีBRICS ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มGlobal Southเข้าร่วมด้วยกับรัสเซีย
มีหลายสัญญานที่ชีชัดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับจีนได้มีการปรับปรุงไปในทิศทางที่จะมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น เช่น
1. อินเดีย-จีน เตรียมกลับมาเปิดเที่ยวบินโดยสารตรง เริ่มเร็วสุดเดือนหน้า
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันอังคาร (อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการเจรจา) ว่า อินเดียและจีน กำลังเตรียมการกลับมาเปิด เที่ยวบินโดยสารตรง ระหว่างกันอีกครั้ง เร็วที่สุดในเดือนหน้า
รัฐบาลอินเดีย ได้แจ้งกับสายการบินอย่าง Air India และ IndiGo ให้เตรียมความพร้อมในการเปิดเที่ยวบินสู่จีนโดยด่วน โดยคาดว่าการประกาศอย่างเป็นทางการอาจเกิดขึ้นในช่วง การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งจะจัดขึ้นในจีนวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ก่อนหน้านี้ สายการบินจากทั้งสองประเทศเคยให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างเมืองสำคัญต่าง ๆ แต่ได้ถูกระงับไปตั้งแต่ปี 2020 จากการระบาดของ โควิด-19
2. สัญญาณฟื้นความสัมพันธ์หลังเหตุปะทะชายแดน
การกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็น สัญญาณล่าสุดของการคลี่คลายความตึงเครียด ระหว่างสองมหาอำนาจเอเชีย หลังจากความสัมพันธ์เสื่อมถอยจากเหตุ ปะทะรุนแรงบริเวณเทือกเขาหิมาลัยในปี 2020 ซึ่งส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
ความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์เริ่มขึ้นในเดือน ตุลาคม 2024 เมื่อ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พบปะกันนอกรอบระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมือง คาซาน ประเทศรัสเซีย และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะถอนกำลังออกจากจุดตึงเครียด และเดินหน้าฟื้นความสัมพันธ์ทวิภาคี
3. ความร่วมมือด้านการค้า-การเดินทางเริ่มฟื้น
หลังการเจรจาทางการทหารและการทูตหลายรอบ ข้อเสนอเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอินเดีย-จีน เริ่มมีความคืบหน้า โดยจีนเองก็เรียกร้องให้ เปิดเที่ยวบินตรงกลับมาอีกครั้ง มาเป็นเวลานานแล้ว
4. ความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่แสดงถึงการอบอุ่นขึ้นของความสัมพันธ์ ได้แก่:
เดือนกรกฎาคม: อินเดียกลับมา ออกวีซ่าท่องเที่ยวให้ชาวจีน อีกครั้ง หลังหยุดไปนานกว่า 5 ปี
เดือนมิถุนายน: ชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งสามารถเดินทางไปยัง ทิเบต เพื่อร่วมแสวงบุญที่ เขาไกรลาส-มานสโรวาร์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020
จีนได้ ผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกยูเรียไปยังอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคยูเรียรายใหญ่ที่สุดของโลก
5. ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก ปักกิ่ง มอสโก และนิวเดลี ยังได้แสดงความสนใจที่จะ รื้อฟื้นกลุ่มความร่วมมือ RIC (รัสเซีย-อินเดีย-จีน) ขึ้นมาอีกครั้ง
หากอินเดียกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน และรัสเซีย จะทำให้สหรัฐและยุโรปไม่อาจที่จะร่วมกันกำหนดระเบียบโลกใหม่ได้แต่ผู้เดียว เพราะว่าอำนาจการต่อรองในเวทีการเมืองโลกจะตกอยู่กับฝ่ายBRICSในโลกใหม่ที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง
By Thanong Khanthong
IMCT News