รัสเซียเผย 'ภูมิรัฐศาสตร์ปั่นป่วน–คว่ำบาตร–สงครามการค้า' หนุนการเปลี่ยนโฉมตลาดพลังงานโลก

16-10-2025

   Sputnik รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ โนวัค (Alexander Novak) รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวระหว่างการประชุม Russian Energy Week ที่มอสโกว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ มาตรการคว่ำบาตร และสงครามการค้าระหว่างประเทศ เป็น “แรงกระตุ้นมหาศาล” ที่เร่งให้ระบบพลังงานทั่วโลกต้องปรับตัวสู่รูปแบบใหม่

  โนวัคกล่าวว่า “ความตึงเครียดระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น การกีดกันทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าทำให้ความเสี่ยงด้านอุปทานพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการปรับโครงสร้างตลาดพลังงานโลกครั้งใหญ่”

  เขาระบุว่า การส่งออกก๊าซรัสเซียไปยุโรปลดลงครึ่งหนึ่ง โดยปัจจุบันรัสเซียครองส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 19 จากเดิมร้อยละ 44 ก่อนเกิดสงครามยูเครน แม้เช่นนั้น รัสเซียยังคงจัดส่งก๊าซให้ยุโรปเพื่อตอบสนองความต้องการฤดูหนาว “แม้หลายครั้งจะขาดทุนทางเศรษฐกิจ”

  โนวัคย้ำว่า การหันโยบายพลังงานของรัสเซียไปสู่เอเชีย ไม่ได้เป็นเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันทางการเมืองจากตะวันตก แต่เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) วางไว้นานแล้ว “เราทราบดีว่าศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกกำลังเคลื่อนไปที่เอเชีย และรัสเซียต้องเติบโตไปพร้อมกับภูมิภาคนั้น”

  เขาเสริมว่า เศรษฐกิจรัสเซียกำลังอยู่ในช่วง “ชะลอตัวแบบควบคุมได้ เพื่อคุมเงินเฟ้อ” ซึ่งเป็นการปรับสมดุลที่จำเป็น และภายในไม่กี่ปีข้างหน้า รัสเซียจะกลับมามีอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของโลก

  ในด้านน้ำมัน โนวัคระบุว่า ความต้องการทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง “ปีที่แล้วอุปสงค์เพิ่มราว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปีนี้ค่าประมาณก็ใกล้เคียงกัน” พร้อมย้ำว่าแนวโน้มการบริโภคพลังงานฟอสซิลยังไม่ถึงจุดสูงสุดตามที่บางสำนักคาดการณ์

   เขายืนยันด้วยว่า รัสเซียไม่มีแผนแก้ไขตารางชดเชยการผลิตเกินกำหนดภายใต้ข้อตกลง OPEC+ โดยระบุว่า “เราดำเนินการตามแผนที่ส่งให้สำนักเลขาธิการ OPEC แล้ว และจะไม่เปลี่ยนแปลง”

  ขณะเดียวกัน โนวัคมองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปัจจุบัน “สะท้อนสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน” อย่างชัดเจน และกระบวนการผลิตของรัสเซียยังมีศักยภาพเพิ่มได้อีกในอนาคต แม้ต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  รายงานจากสำนักพลังงานยุโรประบุว่า สัดส่วนก๊าซรัสเซียที่นำเข้าในอียูลดเหลือ 19% สอดคล้องกับแผน REPowerEU ที่ตั้งเป้ายุติการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียทั้งหมดภายใน ปี 2027.​

  ขณะเดียวกัน ยุโรปเริ่มหันไปพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและซื้อน้ำมัน-ก๊าซจากประเทศอื่น เช่น นอร์เวย์ แอลจีเรีย และอาเซอร์ไบจาน รวมถึงนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนทิศทางพลังงานของยุโรป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://sputnikglobe.com/20251015/rising-geopolitical-tensions-driving-transformation-in-energy-market-novak-1122963343.html