.

ไมเคิล ฮัดสัน' เสนอเศรษฐศาสตร์แนวทางใหม่ 'Global South ปลดแอกจาก “อาณานิคมการเงินสหรัฐฯ”' ผ่านโมเดลจีน
19-7-2025
Geopoliticale Eonomy รายงานบทความจาก นักเศรษฐศาสตร์ ไมเคิล ฮัดสัน (Michael Hudson) ว่า ไมเคิล ฮัดสันชี้ทางเศรษฐกิจเพื่อ Global South: “ถึงเวลาท้าทายจักรวรรดิการเงินโลกผ่านโมเดลจีน”
ไมเคิล ฮัดสัน (Michael Hudson) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังและอดีตที่ปรึกษารัฐบาลสหรัฐฯ นำเสนอวิเคราะห์เชิงลึกว่าประเทศในกลุ่ม Global Majority โดยเฉพาะ Global South จะต้องหาทางรอดจากระเบียบเศรษฐกิจโลกที่ถูกออกแบบเพื่อผลประโยชน์ของจักรวรรดินิยมการเงินที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา หากต้องการบรรลุเอกราชทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
ฮัดสันเริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นว่า ทุนนิยมอุตสาหกรรมในยุโรปเคยถือเป็นก้าวหน้าที่ปลดแอกจากโมเดลเศรษฐกิจแบบศักดินา ซึ่งผูกขาดรายได้ผ่านค่าเช่าที่ดิน รายได้ผูกขาดจากการค้า และดอกเบี้ยจากธนาคารที่ไม่ได้สนับสนุนภาคการผลิตโดยตรง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา กลไกป้องกันค่าเช่าเหล่านี้กลับถูกล้มล้าง และแนวโน้ม “ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ” (economic rent) ไม่ต่างจากอดีตเจ้าที่ดินและมหาเศรษฐีทรัพย์สิน เดินทางกลับสู่ระบบโลกภายใต้ใบหน้าของตลาดเสรีผ่านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การควบรวมโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งออกเงินทุน
ผลที่ตามมา คือกลุ่มทุนการเงินซึ่งแทบไม่ผลิตคุณค่าทางเศรษฐกิจจริง กลับได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าปัจจัยแรงงานหรือทุนการผลิต โดยเฉพาะผ่านรายได้ค่าเช่าจากที่ดิน สิทธิใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และรายได้ดอกเบี้ยจากภาระหนี้ของประเทศต่างๆ
### โมเดลอเมริกัน: กลไกควบคุมโลกผ่านเงิน หนี้ และกฎที่เสนอเอง
ในขณะที่ตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ผลักดันกรอบ “ตลาดเสรี” ภายใต้กติกา WTO, IMF และสถาบัน Bretton Woods กลไกดังกล่าวกลับบีบบังคับให้ประเทศเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติแปรรูปสมบัติของชาติเพื่อชำระหนี้ ไม่สามารถใช้ทรัพยากรเหล่านั้นต่อยอดเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งยังไม่สามารถเก็บภาษีที่ควรจะเก็บจากต่างชาติเพื่อยกคุณภาพการครองชีพของประชาชน
ฮัดสันเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “อาณานิคมการเงิน” (financial colonialism) ซึ่งแทนที่การเข้าครองดินแดนในอดีตด้วยการเข้ายึดงบประมาณและการคลังของประเทศเจ้าหนี้เพื่อการจ่ายหนี้ระยะยาว โดยไม่สามารถลงทุนพัฒนาประเทศของตนได้
ในประเทศกำลังพัฒนาดังกล่าว ระบบภาษีมักหลีกเลี่ยงการจัดเก็บจากค่าเช่า-ผูกขาด และถือว่าการเก็บภาษีเหล่านี้เป็น “การละเมิดกลไกตลาดเสรี” ตามแนวคิดแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) ที่ระบายไปยังภาครัฐสากลและโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านสื่อ มหาวิทยาลัย และแนวทางการกำหนดนโยบายระหว่างประเทศ
โมเดล “สังคมนิยมอุตสาหกรรม” แบบจีน: ภัยคุกคามต่อมหาอำนาจการเงินตะวันตก
ฮัดสันชี้ว่า สหรัฐฯ มองจีนเป็น “ภัยคุกคามเชิงรูปแบบ” ต่อระเบียบโลกตะวันตก ไม่ใช่ในเชิงทหาร หากแต่ในแง่เศรษฐกิจ จีนเลือกใช้กลไกรัฐควบคุมการสร้างเงิน การให้เครดิต และการจัดสรรทรัพยากรโดยไม่เปิดระบบให้กลุ่มทุนการเงินภาคเอกชนเข้าผูกขาด
จีนไม่เพียงเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ปรับสัดส่วนสินเชื่อสู่เศรษฐกิจจริง แต่ยังควบคุมตัวแปรทางการคลัง-การเงินได้อย่างเสถียรซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแนวคิดเศรษฐกิจแบบสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคงระยะยาว ไม่ใช่ผลกำไรเก็งกำไรจากดอกเบี้ย สินทรัพย์ หรือการแปรรูปธุรกิจรัฐ
ในขณะเดียวกัน มหาอำนาจการเงินตะวันตก กลับให้เสรีภาพแก่ธนาคารกลางมากเกินไป ทำให้การขยายเครดิตถูกใช้เพื่อการเก็งกำไร มากกว่าการสนับสนุนเศรษฐกิจจริง ซึ่งไม่เพียงบิดเบือนตัวเลข GDP แต่ยังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างทุนเก็งกำไรกับแรงงานนับล้านที่ไม่มีอำนาจต่อรอง
ทางรอดของ Global South: สร้างความร่วมมือออกจากวงล้อมดอลลาร์
ประเทศในกลุ่ม Global Majority จำเป็นต้องตั้งองค์กร หรือพันธมิตรเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์แบบใหม่ เช่น BRICS+ เพื่อผลักดันโมเดลเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนหลักอธิปไตย งดพึ่งพาดอลลาร์ และลดบทบาทของบรรษัทหลายสัญชาติในทรัพยากรของตน
คำแนะนำของฮัดสันชัดเจน:
- ต้องเก็บภาษีจากค่าเช่าทางเศรษฐกิจ (เช่น ที่ดิน ผูกขาด ธนาคาร)
- ต้องผลักดันให้มีการล้างหนี้ต่างชาติเพื่อปลดล็อกการคลัง
- ต้องหยุดการพึ่งพาระเบียบ “rule-based order” แบบสหรัฐที่ให้สิทธิพิเศษกับกลุ่มทุนต่างชาติ100%
### สหรัฐฯ เปลี่ยนภาพ “ประชาธิปไตย-ตลาดเสรี” สู่โจทย์ความมั่นคงเพื่อกลุ่มชนชั้นสูง
ฮัดสันวิจารณ์ว่า สหรัฐฯ ได้ปรับภาพลักษณ์ “ประชาธิปไตย-ตลาดเสรี” ให้กลายเป็นเครื่องมือควบคุมโลกผ่านคำจำกัดความทางเศรษฐกิจ โดยไม่อนุญาตให้ประเทศอื่นมีสิทธิสถาปนา “ระเบียบภาษี การเงิน และการค้า” เป็นของตนเอง เมื่อใดที่ประเทศเหล่านี้ตั้งแนวทางสวนทางกับระเบียบเดิม จึงมักถูกโจมตีว่าเป็น “ระบอบอำนาจนิยม” และได้รับบทลงโทษผ่านกลไกคว่ำบาตร หรือแม้แต่ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงระบอบ (regime change)
### ศึกชี้อนาคตโลก จะเป็น “ประชาธิปไตยที่แท้จริง” หรือ “อาณานิคมการเงิน”
ฮัดสันตั้งคำถามถึงคำว่า "ประชาธิปไตยของตลาด" ว่ากำลังกลายเป็นระบบที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่ม oligarchy การเงิน ที่ร่ำรวยจากค่าเช่าทางเศรษฐกิจ และผลักต้นทุนมาที่ประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่เสียงของประชาชนชนชั้นแรงงานถูกลดบทบาทลงอย่างสิ้นเชิง
ยุทธศาสตร์ของประเทศที่จะหลุดพ้นจากอำนาจการครอบงำนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยลำพัง จำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับพหุภาคีแบบใหม่ ที่ไม่ตั้งอยู่บนกติกาเดิม หากแต่ออกแบบขึ้นใหม่ เพื่อคืนสิทธิแก่รัฐในการควบคุมเศรษฐกิจของตน เพื่อประชาชนของตน
*หมายเหตุติดตามอ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้จากลิงก์ด้านล่าง
----
IMCT NEWS
ที่มา https://geopoliticaleconomy.com/2025/07/17/michael-hudson-global-majority-us-financial-colonialism/