.

ทองคำไทยไหลทะลักสู่กัมพูชา 7.1 หมื่นล้านบาท ใน 7 เดือน เอกชนจี้รัฐตรวจสอบ ชี้ผิดปกติกดดันค่าเงินบาทแข็ง กระทบส่งออก-ท่องเที่ยว
15-9-2025
Bloomberg รายงานว่า การพุ่งขึ้นของการส่งออกทองคำจากไทยไปกัมพูชาสร้างกระแสเรียกร้องให้มีการสอบสวน หลังยอดส่งออกช่วงต้นปี 2025 ทะยาน 19% แตะ 71.3 พันล้านบาท ส่อแววทำสถิติสูงสุดแบบปีที่แล้ว พร้อมข้อสงสัยว่าธุรกรรมบางส่วนอาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือการฟอกเงิน
การส่งออกทองคำจากประเทศไทยไปยังประเทศกัมพูชาที่พุ่งสูงอย่างผิดปกติได้จุดประกายให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการสืบสวน โดยการส่งออกดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทนี้เอง กำลังคุกคามภาคการส่งออกและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2568 ปริมาณการส่งออกทองคำของไทยไปยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 7.13 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นอัตราที่อาจสูงกว่าสถิติของปีที่แล้วที่ 1.06 แสนล้านบาท จากข้อมูลของกรมศุลกากร (Customs Department) ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่ากัมพูชากำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกลั่นทองคำของโลก และสิงคโปร์ (Singapore) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำในภูมิภาคในฐานะจุดหมายปลายทางการส่งออกทองคำของไทย
ตัวเลขดังกล่าวเน้นย้ำถึงการก้าวขึ้นมาอย่างโดดเด่นของกัมพูชาในฐานะจุดหมายปลายทางการค้าทองคำของไทย และทำให้เกิดคำถามถึงปัจจัยขับเคลื่อนทางการค้าและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการแข็งค่าของเงินบาทที่รวดเร็วในปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ได้ให้คำมั่นว่าจะออกมาตรการเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาทและจำกัดอิทธิพลจากราคาทองคำ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล (Kriengkrai Thiennukul) ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมไทย (Federation of Thai Industries - FTI) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า สมาพันธ์ฯ พบว่าการส่งออกทองคำและเครื่องประดับไปยังกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปีที่แล้วในปริมาณที่ "ไม่สอดคล้องกับขนาดและความต้องการของประเทศ"
“ดูแล้วน่าสงสัย” นายเกรียงไกร (Kriengkrai Thiennukul) กล่าว พร้อมเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) กรมศุลกากร (Customs Department) และกระทรวงพาณิชย์ (Ministry of Commerce) ควรดำเนินการสอบสวนธุรกรรมเหล่านี้ "มันอาจมาจากธุรกิจสีเทา เช่น กลุ่มมิจฉาชีพและบ่อนคาสิโน เป็นไปได้ว่าพวกเขาใช้ทองคำเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน"
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท
นายเกรียงไกร (Kriengkrai Thiennukul) ยังชี้ให้เห็นถึงอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท นั่นคือการโอนเงินออกนอกประเทศของแรงงานข้ามชาติที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 4 ล้านคน ซึ่งตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้มากหากรวมถึงแรงงานที่ไม่ได้ลงทะเบียน การโอนเงินทั้งในรูปแบบที่ถูกกฎหมายและไม่เป็นทางการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา (Myanmar) และกัมพูชา (Cambodia) อาจส่งผลให้สภาพคล่องของเงินบาทในประเทศลดลงและสร้างแรงกดดันต่อค่าเงิน
การเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (JSCCIB) ซึ่งประกอบด้วย สมาพันธ์อุตสาหกรรมไทย (FTI) หอการค้าไทย (Thai Chamber of Commerce) และสมาคมธนาคารไทย (Thai Bankers’ Association) มีกำหนดเข้าพบนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ (Sethaput Suthiwartnarueput) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ในสัปดาห์หน้าเพื่อแสดงความกังวล ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ จะนำเรื่องความสงสัยเกี่ยวกับการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้นของกัมพูชาและผลกระทบจากการโอนเงินของแรงงานข้ามชาติเข้าสู่การพิจารณาด้วย
“เราโอเคหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับประเทศอื่นๆ จากความอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ (US)” นายเกรียงไกร (Kriengkrai Thiennukul) กล่าว “แต่การที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวมากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เราเสียเปรียบในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของเรา ซึ่งควรจะเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-09-13/surging-thai-gold-exports-to-cambodia-sparks-demand-for-probe