.

สหรัฐฯ วางแผนกลับสู่ฐานทัพเรือ 'ซูบิก-ฟิลิปปินส์' จัดตั้งคลังเก็บยุทโธปกรณ์และสร้างศูนย์ผลิตอาวุธใหญ่ที่สุดในโลก
29-9-2025
Asia Times รายงานว่า สหรัฐฯ–ฟิลิปปินส์เดินเกมฟื้นอำนาจ Subic Bay รับมือศึกอิทธิพลอินโด–แปซิฟิก สหรัฐฯเตรียมกลับคืนฐานทัพเรือ Subic Bay ในฟิลิปปินส์อย่างเต็มรูปแบบ หลังปิดฐานไปกว่าสามทศวรรษท่ามกลางสมรภูมิภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนผ่านโดยเฉพาะแรงกดดันจากจีน. ล่าสุด กองทัพเรือสหรัฐฯ (US Navy) ได้เปิดข้อเสนอเช่าสถานที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Subic Bay Metropolitan Authority Freeport เป็นเวลา 5 ปี ภายในเดือนกันยายน 2026 สำหรับสร้างคลังเก็บอุปกรณ์และศูนย์ซ่อมขนาด 25,000 ตร.ม. ห่างจากจุดปฏิบัติการโครงการ “prepositioning” เดิมเพียง 16 กิโลเมตร โดยโรงคลังนี้จะรองรับเจ้าหน้าที่ 60 นาย ไม่ใช่คลังเก็บยุทโธปกรณ์หรืออาวุธรุนแรง แต่เน้นสนับสนุนซ่อมบำรุงและโลจิสติกส์.
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯและฟิลิปปินส์ยังอนุมัติโครงการร่วมเมกะโปรเจกต์ “โรงงานผลิตกระสุนใหญ่สุดโลก” ใน Subic Bay เพื่อเสริมการพึ่งตนเองด้านอุตสาหกรรมกลาโหมและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพสหรัฐฯในจุดยุทธศาสตร์อินโด–แปซิฟิก. มีการเตรียมแผนสร้างโรงงานกระสุนร่วมที่ต่อยอดฐานการผลิตแบบ “forward staging” ให้ตอบสนองเหตุการณ์ฉุกเฉินโดยเฉพาะในกรณีพิพาทไต้หวันและทะเลจีนใต้ แก้ปัญหาการพึ่งอุปทานจากฝั่งอเมริกาและลดความเสี่ยงของการคุมเส้นทางหุ้นส่วนในภูมิภาค.
สถานะใหม่ของ Subic Bay สะท้อนยุทธศาสตร์ First Island Chain ที่วอชิงตันเร่งขยายการคุ้มกันทางทหารผ่านญี่ปุ่น–ไต้หวัน–ฟิลิปปินส์ โดยฟิลิปปินส์กลายเป็นโลจิสติกส์และฐานปฏิบัติการสำคัญสำหรับกระแส Distributed Maritime Operations (DMO) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ คลังเก็บและโรงงานใหม่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรับมือฝ่ายตรงข้ามในกรณีความขัดแย้งกับจีน โดยมิให้การส่งกำลังบำรุงต้องอาศัยแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯเหมือนเดิม.
Gilberto Teodoro (กิลเบอร์โต เตโอโดโร) รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ เผยจุดยืนว่าเขาสนับสนุนทุกการลงทุนที่สร้างความมั่นคง–ถ่ายทอดเทคโนโลยี–และสร้างงานใหม่ ภายในกรอบข้อตกลง EDCA ปี 2014 ที่ครอบคลุมกว่าร้อยกิจกรรมต่อปี พร้อมทั้งเร่งปรับปรุงฐานทัพ–สนามบิน–โรงงาน และอุตสาหกรรมให้ทันสมัย.
ทางการฟิลิปปินส์ยังเปิดแผนพัฒนาสองเกาะที่เคยเป็นพื้นที่ฐานทัพสหรัฐฯ (Grande และ Chiquita Islands ใน Subic Bay) ให้เป็นเขตสงวนทหารเสริมความมั่นคงในทะเลจีนใต้ พร้อมทยอยเปลี่ยนแปลงเขตเศรษฐกิจพิเศษ Subic ให้เป็นศูนย์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์รองรับทหาร/กองเรือได้ทั้งสองฝ่าย.
ภาพรวมของ Subic Bay จึงสะท้อนสภาวะ “คานอำนาจ–สมดุลผลประโยชน์” ระหว่างสหรัฐฯกับจีน ข้อมูลล่าสุดพบว่าการลงทุนชาวต่างชาติในฟิลิปปินส์ลดลงกว่า 64%ในไตรมาสสองปีนี้ แต่จีนยังครองสัดส่วนลงทุนสูงสุดราว 22% ของทั้งหมด.
ในสถานการณ์นี้ ฟิลิปปินส์ต้องประเมินผลรับต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างรอบคอบ ความอยู่รอด–อำนาจต่อรอง–และความสัมพันธ์กับมหาอำนาจจึงกลายเป็นโจทย์หลักที่มาแรงภายใต้การคืนชีพ Subic Bay ของสหรัฐฯในปี 2026.
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/09/us-plotting-a-military-comeback-at-philippines-subic-bay/