.
สหรัฐฯ เดินเกมยุทธศาสตร์ ‘Trans-Siberian Rail’ เล็งใช้รัสเซียเป็นเส้นทางใหม่ขนแร่หายาก เพื่อลดพึ่งตุรกีและถ่วงอิทธิพลจีน
13-12-2025
Asia Time รายงานว่า 'Trans-Siberian Rail เส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรีย' เตรียมรับบทบาทสำคัญในโครงการ รัสเซีย (Russia)-สหรัฐฯ (US) กุญแจสำคัญคือการคลี่คลายความตึงเครียด ตุรกี (Turkiye)-รัสเซีย (Russia)
การบริหารจัดการความตึงเครียดระหว่าง ตุรกี (Turkiye) และ รัสเซีย (Russia) ในภูมิภาค เซาท์คอเคซัส (South Caucasus) และ เอเชียกลาง (Central Asia) โดย สหรัฐฯ (US) ซึ่งความตึงเครียดดังกล่าวได้ถูกทำให้ทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว อาจนำไปสู่การผนวกรวมโครงการลงทุนแร่หายาก (rare earth mineral investments) ที่ สหรัฐฯ (US) วางแผนไว้ใน เอเชียกลาง (Central Asia) เข้ากับโครงการร่วมทุนที่เกี่ยวข้องใน รัสเซีย (Russia) หลังความขัดแย้งใน ยูเครน (Ukraine) ยุติลง
สำหรับโครงการแรก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับ คาซัคสถาน (Kazakhstan) และ อุซเบกิสถาน (Uzbekistan) ระหว่างการประชุมสุดยอด C5+1 ครั้งล่าสุดที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (DC) ในขณะที่โครงการที่สองคือโครงการร่วมกับ รัสเซีย (Russia) นั้น ถูกบรรยายไว้ในรายงานล่าสุดของ Wall Street Journal
หากความตึงเครียดระหว่าง ตุรกี (Turkiye) และ รัสเซีย (Russia) ใน เอเชียกลาง (Central Asia) เลวร้ายลง และความขัดแย้งใน ยูเครน (Ukrainian Conflict) ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้โครงการแร่ธาตุร่วมทุนของ สหรัฐฯ (US) ใน รัสเซีย (Russia) ล่าช้า สหรัฐฯ (US) ก็จะจำเป็นต้องพึ่งพา ตุรกี (Turkiye) โดยสิ้นเชิงสำหรับการนำเข้าแร่หายากจาก เอเชียกลาง (Central Asia)
เนื่องจากเส้นทาง อัฟกานิสถาน (Afghan) และ อิหร่าน (Iranian) นั้นไม่สามารถใช้การได้จริงด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและทางการเมือง ดังนั้นเส้นทางที่สามารถเป็นไปได้เพียงเส้นทางเดียวคือผ่าน ตุรกี (Turkiye) ซึ่งเป็นจุดยึดทางตะวันตกของเส้นทาง “Trump Route for International Peace and Prosperity” (TRIPP) ที่ทอดยาวผ่าน อาร์เมเนีย (Armenia) ไปยัง อาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) และ เอเชียกลาง (Central Asia)
แม้ว่าเส้นทาง TRIPP จะค่อย ๆ เข้ามาแทนที่อิทธิพลของ รัสเซีย (Russia) ในภูมิภาคด้วยอิทธิพลของโลกตะวันตกที่นำโดย ตุรกี (Turkiye) แต่ก็จะเป็นการเร่งการผงาดขึ้นของ ตุรกี (Turkiye) ในฐานะมหาอำนาจ ยูเรเซีย (Eurasian great power) ซึ่งอาจส่งผลให้ ตุรกี (Turkiye) มีศักยภาพในการท้าทาย สหรัฐฯ (US) ได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
รูปแบบของการท้าทายที่อาจเกิดขึ้นนี้รวมถึง การร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ จีน (China) ใน เอเชียกลาง (Central Asia) เพื่อทำลายแผนการสกัดกั้นที่ อเมริกา (Americans) วางแผนไว้ การให้ทุนสนับสนุนกลุ่ม ภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood chapters) มากขึ้น (ซึ่งอาจถูก สหรัฐฯ (US) กำหนดให้เป็นผู้ก่อการร้าย) และการใช้บทบาทสำคัญของเส้นทาง TRIPP เป็นเครื่องมือแบล็กเมล์ สหรัฐฯ (US)
สถานการณ์เชิงลบเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ หาก สหรัฐฯ (US) สามารถบริหารจัดการความตึงเครียดระหว่าง ตุรกี (Turkiye)-รัสเซีย (Russia) และเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ความขัดแย้งใน ยูเครน (Ukrainian Conflict) ยุติลง
ในกรณีที่ความขัดแย้งยุติลง สหรัฐฯ (US) สามารถกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาเส้นทาง TRIPP และ ตุรกี (Turkiye) ในการนำเข้าแร่หายากจาก เอเชียกลาง (Central Asia) โดยอาศัยการพึ่งพาทางรถไฟสาย Trans-Siberian Railway ของ รัสเซีย (Russia) ซึ่งอยู่ใกล้เคียง Trans-Siberian สามารถขนส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปยัง วลาดิวอสต็อก (Vladivostok) ได้อย่างสะดวก เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์กลางเทคโนโลยีใน แคลิฟอร์เนีย (Californian tech hub) ซึ่งจะนำไปสู่การผนวกรวมโครงการลงทุนแร่หายากทั้งสองเข้าด้วยกัน
ไม่เพียงแต่โครงการร่วมทุนด้านแร่หายากกับ รัสเซีย (Russia) จะได้รับการปลดล็อกเท่านั้น แต่บริษัท สหรัฐฯ (US) ที่ลงทุนในโครงการของ เอเชียกลาง (Central Asian) ก็จะสามารถขยายการดำเนินงานระดับภูมิภาคของตนไปยังทิศเหนือได้ง่ายขึ้น โดยมีทรัพยากรจากทั้งสองโครงการถูกขนส่งไปยัง มหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific) ผ่านทาง Trans-Siberian
ความสำคัญด้านโลจิสติกส์และทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นของ ไซบีเรีย (Siberia) และ รัสเซีย ตะวันออกไกล (Russian Far East) สำหรับ สหรัฐฯ (US) อาจเป็นรากฐานสำหรับโครงการร่วมทุนอื่น ๆ ที่นั่นและใน อาร์กติก (Arctic) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนแผนพัฒนาหลักของ ประธานาธิบดี ปูติน (Putin) สำหรับภูมิภาคเหล่านั้น
นอกจากนี้ สหรัฐฯ (US) และนักลงทุนอื่น ๆ ในภาคแร่ธาตุของ มองโกเลีย (Mongolia’s mineral sector) อาจเริ่มเปลี่ยนเส้นทางการส่งออกผ่าน Trans-Siberian แทนที่จะยังคงพึ่งพาคู่แข่งเชิงระบบของ อเมริกา (Americans) อย่าง จีน (Chinese)
ผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปอาจนำไปสู่การสร้าง "การพึ่งพาอาศัยกันเชิงกลยุทธ์ที่ซับซ้อน" (complex strategic interdependence) ระหว่าง สหรัฐฯ (US) และ รัสเซีย (Russia) ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ก่อน "ปฏิบัติการพิเศษ" ต่อ ยูเครน (Ukraine) เพื่อลดความเสี่ยงของวิกฤตครั้งใหม่ สหรัฐฯ (US) ยังจะได้สร้างฐานทางเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ตามแนวชายขอบด้านตะวันตกและเหนือของ จีน (China’s western and northern peripheries) ซึ่งสามารถใช้ประกาศเกียรติภูมิ (flaunted for prestige) ได้อีกด้วย
ท่ามกลางการแข่งขันระหว่าง จีน-สหรัฐฯ (Sino-US rivalry) สหรัฐฯ (US) มีความสนใจที่จะเข้าถึงทรัพยากรของ รัสเซีย (Russian resources) ซึ่งการเข้าถึงนี้จะเป็นการกีดกันไม่ให้ จีน (China) ได้รับทรัพยากรเหล่านั้นโดยปริยาย (ipso facto) เนื่องจากวิถีการเป็นมหาอำนาจ (superpower trajectory) ของ จีน (China) จะได้รับการเร่งรัดอย่างรวดเร็ว หากสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้ไม่จำกัดในราคาที่ถูกมาก ซึ่งเป็นลักษณะของการค้าที่ปราศจากการแข่งขันที่แข็งแกร่งจาก สหรัฐฯ (US)
ดังนั้น ข้อเสนอการจัดเตรียมดังกล่าวจึงมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งต่อ สหรัฐฯ (US) ซึ่งเป็นเหตุผลที่ กรุงวอชิงตัน (Washington) ควรเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยยุติสงครามใน ยูเครน (Ukraine) และจัดการความตึงเครียดระหว่าง ตุรกี (Turkiye)-รัสเซีย (Russia) ใน เอเชียกลาง (Central Asia) โดยไม่ชักช้า
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/12/trans-siberian-rail-poised-for-pivotal-role-in-russia-us-projects/