Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
23/4/2024
สกุลเงินชั้นนำในเอเชียที่หวังจะโค่นดอลลาร์สหรัฐ ไม่ให้เป็นสกุลเงินหลักของโลกอีกต่อไป แต่ดูเหมือนว่า สกุลเงินในเอเชียเหล่านี้ กำลังประสบความยุ่งยากในตลาดเงิน ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง เฉพาะเดือนเมษายน ( 2024 ) เพียงเดือนเดียว เงินดอลลาร์สหรัฐก็รุมกระหน่ำเงินหยวนของจีน รูปีของอินเดีย และเยนญี่ปุ่น ไปแล้วในตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์เทียบกับอีกหกสกุลเงิน ปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 16 เมย. 2024 ) ที่ 106.62 สูงสุดนับจากต้นเดือนพฤศจิกายน ( 2023 ) โดยมีสาเหตุมาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ตัวเลขล่าสุดจากการจับจ่ายในภาคค้าปลีกสะท้อนให้เห็นว่า คนอเมริกันมีแรงจับจ่ายมากขึ้น ตลาดงานยังแข็งแรง และภาคการผลิตยังขยายตัว
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า ความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ ทำให้เฟดสามารถคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี ได้ต่อไป และกำลังรอหลักฐานมากขึ้น ที่ชี้ให้เห็นว่า เงินเฟ้อจะมุ่งหน้าไปยังระดับ 2% ตามที่ตั้งเป้าไว้ เฟดจะลดดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อชัดเจนแล้วว่า เศรษฐกิจกำลังหดตัว
แต่ยังคงไม่มีสัญญาณว่า เงินเฟ้อจะบรรเทาลง เพราะเดือนมีนาคมถือเป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้วที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับร้อนแรงเกินคาด เกิดจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และต้นทุนบ้านที่สูงขึ้นด้วย
แต่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า นักวิเคราะห์มองว่า ทุกครั้งที่เกิดความตื่นตระหนกทางภูมิรัฐศาสตร์ จนส่งผลให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะกระทบกับยุโรปและญี่ปุ่นอย่างมาก แต่ไม่กระทบกับสหรัฐมากเท่าใดนัก เพราะมีความเป็นอิสระด้านพลังงานมากกว่า สิ่งนี้ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทุกครั้งที่เกิดปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ก็ทำให้คนอเมริกันมีอำนาจในการซื้อสูงกว่า และการบริโภคก็ยังแข็งแกร่งต่อไป คนอเมริกันจะเดินทางไปต่างประเทศกันมากขึ้น สินค้านำเข้ามีราคาถูกลง สหรัฐก็จะนำเข้าสินค้ามากขึ้น
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://edition.cnn.com/2024/04/21/markets/stocks-week-ahead-dollar-rally-global-economy/index.html
https://watcher.guru/news/us-dollar-outshines-chinese-yuan-japanese-yen-indian-rupee
© Copyright 2020, All Rights Reserved