เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ stagflation แล้ว
36 0C
Thailand
Thailand
4/5/2024
Martin Armstrong แห่ง armstrongeconomics.com เขียนบทความว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานของธนาคารกลางสหรัฐ เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อเป็นเรื่อง"ชั่วคราว" เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะร่อนลงจอดอย่างนิ่มนวล(soft landing) เขาเชื่อว่าเราจะย่างเข้าสู่ปีที่จะได้เห็นการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้ง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ที่ตั้งไว้อย่างส่งเดช แต่อีกครั้งที่ประธานเจอโรม พาวเวลล์พลาดเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในขณะที่เงินเฟ้อสูง (stagflation)
อาร์มสตรองเขียนว่า หากเรามองดูตามความเป็นจริง อัตราดอกเบี้ยมักจะสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู และจะลดลงในช่วงเศรษฐกิจถดถอยและหรือตกอยู่ภาวะเซื่องซึม เราจะเห็นอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น น่าจะไปถึงปี 2028 เนื่องจากการขาดแคลนสินค้าต่างๆและสงคราม แต่เรากำลังเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันก็เหมือนกับเศรษฐกิจในช่วงปี 1970s มากขึ้น และเรากำลังเห็นที่เราเรียกว่า "Stagflation" โดยที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ประธานเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่นโยบายการเงินพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หากแรงกดดันด้านราคากลับมาอีกครั้ง เขาระบุว่าขณะนี้พวกเขากำลังพิจารณาว่าเมื่อใดควรลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงจากเป้าหมาย 2% ที่สมมติขึ้นมา และเป็นไปตามอำเภอใจ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะยืนอยู่ได้ก็ต่อเมื่อเราได้เห็นเศรษฐกิจตกต่ำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับสงครามเป็นหลัก จะตอกย้ำสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเหนือการเติบโตทางเศรษฐกิจคือ STAGFLATION ซึ่งเป็นสิ่งที่เศรษฐกิจต้องเผชิญในช่วงสงคราม อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่า GDP ส่งผลให้กำลังซื้อของเงินดอลลาร์ลดลง
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ไม่เคยรวมอยู่ในตัวเลขเงินเฟ้อคือภาษี ทฤษฎีของพวกเขาคือภาษีเป็นภาระผูกพันของพลเมืองและไม่ใช่ส่วนหนึ่งของค่าครองชีพของเรา อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในระดับสูงกลับมองว่าความมั่งคั่งของตนครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้นถูกวอชิงตันแย่งชิงไป เรารู้แล้วว่ารายงานงานมีการบิดเบือนอย่างร้ายแรง ในการคำนวณ GDP จะรวมรายได้ส่วนบุคคลทั้งหมดและการใช้จ่ายภาครัฐ ในเดือนมีนาคม เราเห็นภาครัฐเพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งมีแต่สร้างภาระให้กับผู้เสียภาษีมากขึ้นเท่านั้น
สงครามจะนำไปสู่การหยุดชะงัก แน่นอนว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะไม่สามารถออกมากล่าวว่าพวกเขาเห็นสงครามที่ลุกลามบานปลายขึ้น และแน่นอนว่าวอชิงตันจะไม่ออกมาพูดให้มีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม โสกราตีส(โมเดลสมองกลทำนายเหตุการณ์อนาคตของarmstrongeconomics.com)ไม่ลำเอียง หรือมีอคติและมีความถูกต้องเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อในปี 2024 เราเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ซึ่งบ่งบอกถึงการขยายตัวของวงจรสงครามหลังปี 2024
IMCT News
ที่มา armstrongeconomics.com
