Thailand
ร่างกม.แบน TikTok หวั่นกระทบศึกเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ
หลังจากร่างกฎหมายสั่งแบน TikTok ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไปแล้ว ตอนนี้ ก็เหลือแต่วุฒิสภาว่า จะลงมติอย่างไร ซึ่งก็ต้องบอกว่า ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องนี้อยู่ เพราะอาจกระทบฐานเสียงคนวัยหนุ่มสาวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้
ขอบคุณภาพจาก fb ByteDance
14/3/2024
บทความจาก CNN ระบุว่า อุปสรรคใหญ่อย่างหนึ่งก็คือ ร่างกฎหมายนี้ไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐ และจำนวนมากเป็นกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญอาจทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้ ( 2024 ) พลิกผันได้ ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นที่บรรดาวุฒิสมาชิกยังเป็นห่วงอยู่
ผู้ใช้งาน TikTok บางรายโพสต์วีดีโอ ก่อนที่จะมีการโหวตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีเนื้อหาขู่ว่า จะโหวตให้พรรคคู่แข่งที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือก หากสภาผู้แทนโหวตให้ผ่านร่างกฎหมายนี้
โฆษกของ TikTok แถลงหลังทราบผลโหวตว่า หวังให้ทางวุฒิสภาพิจารณาโดยยึดหลักข้อเท็จจริง รับฟังประชาชน และตระหนักถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ มีธุรกิจรายย่อย 7 ล้านแห่ง และคนอเมริกันถึง 170 ล้านคน ที่ใช้ TikTok
ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ยังแสดงความวิตกในร่างกฎหมายแบน TikTok เพราะอาจกระทบกับการเมืองก่อนการเลือกตั้งในปีนี้ ( 2024 ) ซึ่งประธานาธิบดี โจ ไบเด้น ก็เคยยืนยันว่า จะลงนามเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ทันทีที่ยื่นมาถึงเขา แต่การทำเช่นนั้น เท่ากับเป็นการตัดฐานเสียงคนหนุ่มสาวออกไป ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญ และคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีแน่นอนหากไบเด้นอยากได้รับเลือกกลับมาใหม่
ส่วนทาง โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งไบเด้นที่จะลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีงวดนี้เช่นกัน ก็กลับลำกะทันหันแล้ว โดยออกมาพูดว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการแบน TikTok ทั้งที่เขาเคยสนับสนุนแนวคิดนี้มาก่อน ตอนที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
แต่ถ้าหากร่างกฎหมายนี้ผ่านวุฒิสภาจนนำออกใช้เป็นกฎหมาย TikTok ก็ส่งสัญญาณแล้วว่า อาจไปสู้กันต่อที่ศาล
ร่างกฎหมายสั่งแบน TikTok ถ้านำออกใช้จริง จะให้เวลา TikTok 5 เดือน ในการแยกตัวจากบริษัทแม่ ByteDance ไม่เช่นนั้น app store ในสหรัฐจะพากันถอด TikTok ออกจากแพลตฟอร์มของพวกเขา ถ้า app store แห่งใดไม่ยอมทำตามกฎหมาย อาจถูกปรับโดยคิดตามจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นนั้น เงินค่าปรับอาจสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ ต่อผู้ใช้งานหนึ่งคน หรือประมาณ 175,000 บาท โดยในเคสของ TikTok นั้น ถ้าแอปเปิ้ลหรือกูเกิ้ลถูกปรับ ก็อาจคิดเป็นวงเงินสูงถึงบริษัทละ 850,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 30 ล้านล้านบาท
ยังไม่แน่ชัดว่า บริษัทแม่ ByteDance จะยอมขายหรือเท TikTok หรือไม่ ถ้ายอมก็คงต้องดิ้นรนหาคนอเมริกันที่เต็มใจจะจ่ายเงินก้อนโต คาดว่า TikTok มีมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท จากการวิเคราะห์ของ Wedbush บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังในสหรัฐมากมายก็ถูกกฎหมายตรวจสอบอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว จึงอาจทำให้พวกเขาไม่อยากจะซื้อกิจการ TikTok
และหากกฎหมายสั่งแบน TikTok ออกจาก app store ของสหรัฐ แต่การจะถอดแอป TikTok ออกจากมือถือของผู้ใช้งานก็ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ ยิ่งไปกว่านั้น เครือข่ายส่วนตัวเสมือนจริง หรือ VPN ก้ยังทำให้ผู้ใช้งานในสหรัฐยังคงเพลิดเพลินกับ TikTok ได้อยู่ โดยการทำให้ดูเหมือนกับว่า ผู้ใช้งานในสหรัฐถูกเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เนทที่มาจากประเทศอื่น
TikTok สร้างชื่อจากการโพสต์คลิปวีดีโอแบบสั้นๆ แต่ปัจจุบัน ผู้ใช้งานก็ยังมีทางเลือกอื่นในการโพสต์คลิปทำนองนี้ เพราะทั้ง ยูทูป สแนปแช็ท อินสตาแกรม เฟสบุ๊ก และ X ต่างเลียนแบบ TikTok โดยให้โพสต์คลิปสั้นๆ ได้ แต่หลายคนก็ยังมองว่า TikTok ดูน่าใช้งานกว่า
ผู้ใช้งาน TikTok หลายคน ยังเห็นว่า การเปลี่ยนแพลตฟอร์มไปโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์อื่น ซึ่งมีระบบสร้างรายได้ที่ต่างออกไป ทำให้พวกเขาเหมือนต้องไปสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ TikTok ทำให้แบรนด์ของพวกเขาเข้าถึงกลุ่มคนดูหน้าใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าแอปอื่น
ผู้ใช้งาน TikTok บางคนในสหรัฐ ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในกรณีที่มันย่ำแย่ถึงขีดสุด เพราะ TikTok คือแหล่งสร้างรายได้ให้พวกเขา แต่สิ่งที่ต้องทำคือ จำเป็นต้องรักษาผู้ติดตามไว้ โดยแจ้งเตือนให้พวกเขารู้ว่า ย้ายไปแพลทฟอร์มไหนกันแล้ว
By IMCTNews
อ้างอิงจาก https://edition.cnn.com/2024/03/13/tech/tiktok-ban-us-bill-explained/index.html
© Copyright 2020, All Rights Reserved