4ประเทศ เตรียมซ้อมรบในพื้นที่ข้อพิพาทของทะเลจีนใต้
36 0C
Thailand
Thailand
8/4/2024
สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์จะจัดการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันครั้งแรก ซึ่งรวมถึงการฝึกสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ โดยมีการสาธิตทางทหารเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ณ บริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กรุงปักกิ่งได้กระทำเชิงรุกเพื่อยืนยันการอ้างสิทธิเหนือดินแดนของตนทำให้เกิดความตื่นตระหนกกัน
พันธมิตรตามสนธิสัญญาและด้านความมั่นคงทั้ง 4 ประเทศกำลังจัดการฝึกซ้อมเพื่อปกป้อง “หลักนิติธรรมที่เป็นรากฐานสำหรับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่สงบสุขและมั่นคง” และส่งเสริมเสรีภาพในการเดินเรือและการเดินทางภาคอากาศ โดยมีการระบุในแถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยหัวหน้าฝ่ายกลาโหมของแต่ละประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา
คำแถลงดังกล่าวไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศจีน แต่ทั้ง 4 ประเทศยืนยันจุดยืนของตนว่าคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศปี 2016 ซึ่งทำให้การเรียกร้องอันกว้างขวางของจีนในด้านประวัติศาสตร์เป็นโมฆะ ถือเป็นที่สิ้นสุดและมีผลผูกพันทางกฎหมาย
จีนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในอนุญาโตตุลาการดังกล่าว โดยได้ปฏิเสธคำตัดสินและยังคงขัดขืนในเรื่องนี้ต่อไป โดยทางฟิลิปปินส์นำข้อพิพาทของตนกับจีนเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในปี 2013 หลังจากการเผชิญหน้าทางทะเลอันอย่างดุเดือดของทั้งสองประเทศ
แต่ทางจีนไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวในทันที
เมื่อปีที่แล้ว (2023) กระทรวงการต่างประเทศของจีนเตือนไม่ให้มีการซ้อมรบที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งส่งผลเสียต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ในดินแดนของตน
“เรายืนเคียงข้างทุกชาติในการปกป้องระเบียบระหว่างประเทศบนพื้นฐานของหลักนิติธรรมที่เป็นรากฐานสำหรับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่สงบสุขและมั่นคง” ทั้ง 4 ประเทศกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเฉพาะของการฝึกซ้อมทางทหารที่เรียกว่ากิจกรรมการร่วมมือกันทางทะเล หรือ Maritime Cooperative Activity
ทางญี่ปุ่นได้ระบุในแถลงการณ์ที่ออกโดยสถานทูตของตนในกรุงมะนิลาว่า พวกเขาจะประจำการที่เรือพิฆาต JS Akebono สำหรับการฝึกซ้อมในทะเลจีนใต้ ซึ่งจะรวมถึงการฝึกสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ และการซ้อมรบทางทหารอื่น ๆ
นายมิโนรุ คิฮาระ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ญี่ปุ่นเชื่อว่าปัญหาที่เกี่ยวกับทะเลจีนใต้นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับสันติภาพและเสถียรภาพทางภูมิภาค และเป็นข้อกังวลที่ถูกต้องตามกฎหมายของประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกาด้วย”
เขาได้กล่าวว่า “ญี่ปุ่นต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ด้วยกำลังทางทหาร ซึ่งร่วมถึงความพยายามดังกล่าวตลอดจนการกระทำใด ๆ ที่เพิ่มความตึงเครียดในทะเลจีนใต้”
นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งว่า การฝึกซ้อม “เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการรับรองว่าทุกประเทศมีอิสระในการบินทางอากาศ แล่นเรือ และปฏิบัติการในทุกที่ที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต”
นายริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลียกล่าวว่า “การเคารพอธิปไตยของชาติ ตลอดจนกฎเกณฑ์และบรรทัดฐานที่ตกลงกันไว้ตามกฎหมายระหว่างประเทศเป็นรากฐานของเสถียรภาพในภูมิภาคของเรา” ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กิลแบร์โต เตโอโดโร จูเนียร์ พูดถึงการฝึกซ้อมทางทหารเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าจะเป็นกิจกรรมแรกในชุดกิจกรรมเพื่อสร้าง “ขีดความสามารถของฟิลิปปินส์ในการป้องกันตนเองทั้งรายบุคคลและโดยรวม”
นอกเหนือจากจีนและฟิลิปปินส์แล้ว ข้อพิพาทที่ยืดเยื้อยาวนานในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญระดับโลก ยังเกี่ยวข้องกับทางประเทศเวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวันด้วย แต่การปะทะกันระหว่างทางกรุงปักกิ่งและกรุงมะนิลาได้ปะทุขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ทางกรุงวอชิงตันไม่ได้อ้างสิทธิ์เหนือเส้นทางยุทธศาสตร์ทางทะเลดังกล่าว แต่เตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าตนจำเป็นต้องปกป้องประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่มีมายาวนาน หากกองกำลังทหาร กองเรือ และกองกำลังทางอากาศของฟิลิปปินส์ตกอยู่ภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธ ซึ่งรวมถึงในทะเลจีนใต้อีกด้วย
ส่วนฝ่ายจีนก็ได้เตือนสหรัฐฯ ไม่ให้เข้าไปแทรกแซงในเรื่องข้อพิพาทดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความกลัวว่าจะบานปลายไปสู่ความขัดแย้งขนาดใหญ่ที่อาจเกี่ยวข้องกับมหาอำนาจทั้งสองโลก
ส่วนญี่ปุ่นมีข้อพิพาทดินแดนกับจีนเกี่ยวกับหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดในเรื่องน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทที่อาจกลายเป็นประเด็นสำคัญเมื่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ในการประชุมสุดยอดที่ทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้า
ในการสู้รบครั้งล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว (มีนาคม) หน่วยยามฝั่งของจีนใช้ปืนใหญ่ฉีดน้ำแรงดันสูงซึ่งทำให้พลเรือเอกฟิลิปปินส์หนึ่งนายและเจ้าหน้าที่กองทัพเรือของเขาได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และทำให้เรือเสบียงไม้ของพวกเขาเสียหายอย่างหนักใกล้กับสันดอนโธมัสที่ 2 เจ้าหน้าที่ทหารฟิลิปปินส์รายหนึ่งระบุว่า ปืนดังกล่าวมีแรงดันสูงมากจนทำให้ลูกเรือคนหนึ่งล้มลงจากพื้น แต่เขากลับชนกำแพงแทนที่จะกระโดดลงทะเล
รัฐบาลฟิลิปปินส์เรียกนักการทูตจีนในกรุงมะนิลาเพื่อแจ้งถึงเรื่อง “การประท้วงที่รุนแรงที่สุด” ต่อจีน ส่วนรัฐบาลกรุงปักกิ่งได้กล่าวหาว่าเรือรบของฟิลิปปินส์บุกรุกเข้าไปในน่านน้ำอาณาเขตของจีน พร้อมเตือนมะนิลาว่าอย่า “เล่นกับไฟ” และกล่าวว่าจีนจะดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศตนต่อไป
IMCT NEWS
